18.30 น. ต้อนรับทุกท่านที่ สวนลุมพินี ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลจุฬา (ตึก สก.) โดยมีทีมงานคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้วยหัวใจบริการอย่างเต็มเปี่ยม
19.00 น. เดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่ จ.เชียงใหม่ สมญานาม “กุหลาบแห่งเวียงพิงค์” ดินแดนที่เปี่ยมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ป่าเขาลําเนาไพร และดอกไม้นานาพันธุ์ พร้อมฟังเรื่องราวทน่าสนใจและสนุกสนานจากมัคคุเทศก์ สมควรแก่เวลาพักผ่อนตามอัธยาศัย (พักค้างคืนบนรถ)
07.00 น. อรุณสวัสดิ์เจ้า รับประทานอาหารเช้า(1) ณ ครัวพิษณุโลก
นำท่านชม วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ที่ความเป็นมาอย่างยาวนาน มีพระพุทธรูปสำคัญ ศักดิ์สิทธิ์ แห่ง เชียงใหม่ ที่ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร พระอัฏฐารส พระสำคัญ
นิยมไหว้ขอพร
- ไหว้ขอพร เสาหลักเมืองอินทขีล เชื่อเพื่อส่งเสริมความมั่นคง เสริมดวงชะตา ที่จะกำหนดความเจริญและความเสื่อมของเมือง เชื่อกันว่าเสาอินทขิลเป็นเสาหลักที่สร้างความมั่นคง การอยู่ดีมีสุข ดังนั้นชาวเมืองเชียงใหม่จึงนิยมมาขอพรจากเสาอินทขิลเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัว
- ไหว้กุมภัณฑ์วัดเจดีย์หลวงผู้รักษาเสาอินทขีล มี 2 ตน
1. พญายักขราช ผู้คนที่ศรัทธาแนะนำว่าให้มาขอพรเกี่ยวกับด้านหน้าที่การงานเพราะท่านจะเป็นองค์ดุ น่าเกรงขาม ให้มาขอพรเรื่องเกี่ยวกับการงาน ปัญหาอุปสรรคให้ลุล่วงผ่านไปได้ด้วยดี
2. พญาอมรเทพ ผู้คนที่นับถือ ศรัทธาท่าน แนะนำว่าท่านจะเป็นองค์ใจดี ให้ขอพรด้านความรัก เมตตาให้คนรักใคร่เอ็นดู รวมทั้งความราบรื่นในชีวิต
******ใครที่มีโอกาสแวะไปเชียงใหม่ อย่าลืมแวะไปวัดเจดีย์หลวงวรวิหารไหว้พระ ขอพรกันนะคะ****
นำท่านชม วัดพันเตา มีความเชื่อว่าการได้มาสักการะเพียงครั้งเดียวจะโชคดีถึง 1000 เท่า วัดพันเตา ชาวเหนือเรียกว่า วัดปันเต้า แปลว่า พันเท่า หลายๆท่าน ไปสักการะแล้วโชคดี จนกลายเป็นความเชื่อว่าในชีวิตควรมาสักการะสักครั้ง
เคล็ดลับสายมู
นำท่านชม วัดพระสิงห์ หรือ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร วัดเก่าแก่ในคูเมืองเชียงใหม่ มีสถาปัตยกรรมแบบล้านนาที่สวยโดดเด่น ทั้งยังเป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี เป็นที่นับถือและเคารพของชาวเชียงใหม่เป็นอย่างมาก โดยผู้คนส่วนใหญ่นิยมมากราบไหว้ขอพรเกี่ยวกับสุขภาพ ความแข็งแรง หากใครเจ็บป่วยจะช่วยให้หายจากโรคภัยต่าง ๆ และยังเป็นวัดสำคัญของเชียงใหม่ และเป็นวัดสำคัญในประวัติศาสตร์แผ่นดินล้านนา ภายในวัดมีพระพุทธรูปสำคัญคือ พระพุทธสิหิงค์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิเพชร มีวิหารลายคำซึ่งมีจิตรกรรมฝาผนังงดงาม อุโบสถของวัด ตกแต่งตามแบบฉบับศิลปะล้านนา หอไตรประดับด้วยรูปปูนปั้นเทวดา และเจดีย์ทรงกลมแบบล้านนา นอกจากนี้ พระธาตุเจดีย์วัดพระสิงห์ ยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีมะโร งตามคติความเชื่อของล้านนา
ชม วัดสวนดอก / วัดบุปผาราม แหล่งขอพรความรักของเหล่าคนโสด และไม่โสด
ปัจจุบัน ได้มีการบรรจุอัฐิของเจ้าน้อยศุขเกษม ไว้ภายในบริเวณวัดสวนดอก และยังคงมีชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยว มักจะแวะเวียนไปสักการะอยู่เป็นประจำดอกกุหลาบแดงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรักและหลายคนมักจะขอพรเรื่องของความรักด้วย เพราะเชื่อกันว่าเจ้าน้อยศุขเกษม ใครผิดหวังในความรัก หากใครไปขอพรท่าน ท่านก็จะช่วยให้สมหวังในความรัก
วัดแห่งนี้ เป็นสถานที่แรกที่ระลึกถึงกับตำนานความรักสองแผ่นดินระหว่าง เจ้าดารารัศมีพระราชชายา และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่5 ซึ่งเป็นการรวมความสัมพันธ์สยามและล้านนาเข้าด้วยกัน ครั้นสิ้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชชายาฯ ปลูกดอกกุหลาบขนาดใหญ่พันธุ์หนึ่ง ซึ่งมีสีชมพูระเรื่อ ส่งกลิ่นหอมตลอดเวลา ทำให้ทรงหวนระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่เสด็จสวรรคตไปแล้ว จึงได้ประทานนามกุหลาบพันธ์นั้นตามพระนามในพระบรมราชสวามีว่า "จุฬาลงกรณ์" อีกด้วย
นอกจากนี้ที่นี่ยังกู่ของเจ้าน้อยศุขเกษม ตำนานรักแห่งล้านนาที่เปรียบเสมือนกับ Romeo and Julietของเชียงใหม่ที่มีความรัก เรื่องราวของความรักที่ไม่อาจได้อยู่ร่วมรักสมความปรารถนาได้ ด้วยเหตุผลทางด้านชั้นวรรณะที่ต่างกัน ของเจ้าชายแห่งเชียงใหม่และสาวน้อย มะเมี๊ยะ ชาวพม่าเมืองมะละแหม่งสุดท้ายแม้ทั้งคู่จะไม่อาจร่วมครองคู่เฉกเช่นคู่รักอื่นทั่วไป แต่ทั้งสองก็ได้เลือกที่จะรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ต่อกัน และมีรักเดียวใจเดียวแม้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม ปัจจุบัน ได้มีการบรรจุอัฐิของเจ้าน้อยศุขเกษม ไว้ภายในบริเวณวัดสวนดอก
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน(2) ร้านอาหาร
บ่าย นำท่านชม วัดเจ็ดยอด เชื่อว่า ถ้าอยากอธิฐานสำเร็จทันใจ ต้องขอพรพระเจ้าทันใจ อายุ 800 ปี วัดเจ็ดยอด
ในการไหว้ “พระเจ้าทันใจ” ที่ วัดเจดีย์เจ็ดยอด พระอารามหลวง มีมานานตั้งแต่ในล้านนามาแต่โบราณ ว่าสิ่งที่ขอจะสำเร็จต้องตามประสงค์ได้ดั่งใจ พระเจ้าทันใจ อายุ 800 ปี สร้างขึ้นโดย สร้างขึ้นโดย พระเจ้าสิริธรรมจักวรรดิติโลกราช จักพรรดิล้านนา เป็นพระเจ้าทันใจที่ชาวเหนือเคารพนับถือ เขาว่ากันว่าขออะไรจะได้เร็วทันใจ เพราะเมื่อ พระเจ้าติโลกราช ได้ทรงอธิษฐานว่าหากยกทัพไปตีเมืองเชียงตุงชนะ จะสร้างกลับ มาสร้างพระพุทธรูปให้เสร็จให้เสร็จในวันเดียว
นำท่านชม วัดโลกโมฬี กล่าวกันว่า...คนไม่มีคู่มาขอพรก็จะได้พบกับคู่ครอง คนที่แต่งงานมาขอลูกก็สมหวัง มีลูกสมปรารถนาตามที่ตั้งใจไว้ อีกทั้งหากคู่ใดได้มากราบไหว้ขอพรก็จักส่งเสริมหนุนนำให้มีความรักที่ยืนยาวยั่งยืน รวมไปถึงการเรียนและการงานอีกด้วย โดยมีความเชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า...ผู้ที่จะมาขอพรและบนบานกับรูปปั้น “พระนางจิรประภามหาเทวี” ถ้าไม่รักจริงกับใคร อย่าอธิษฐาน
ขอพรพระนางจิรประภามหาเทวี ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น เทพเจ้าแห่งความรัก ตำนานแห่งเชียงใหม่ ตำนานความรักของ พระนางจิรประภามหาเทวี กษัตริย์หญิงแห่งล้านนาพระองค์แรก ที่มีความรักต่อพระสวามี บ้านเมืองและประชาชน
(เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวงานยี่เป็ง สมาชิกต้องโดยสายรถขนส่งเพื่อเข้างาน โดยรถบัสจะไม่จอดรอรับกลับ)
หลังจากนั้นอิสระในการเที่ยวงานยี่เป็ง (ลอยกระทง) จ.เชียงใหม่ ประเพณียี่เป็งเป็นประเพณีลอยกระทงตามประเพณีล้านนาที่จัดทำขึ้นในวันเพ็ญเดือน 2 ของชาวล้านนา ยี่เป็งเป็นภาษาคำเมืองในภาคเหนือ คำว่า"ยี่"แปลว่า สอง และคำว่า"เป็ง"ตรงกับคำว่า "เพ็ญ" หรือพระจันทร์เต็มดวง ประเพณียี่เป็ง มีประวัติที่มา
ประเพณียี่เป็ง เป็นประเพณีของชาวล้านนา จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ทุก ๆ ปีที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยคำว่า ยี่เป็ง เป็นภาษาล้านนา แยกได้สองคำคือคำว่า ยี่ ที่หมายถึงเดือนที่สอง หรือเดือนยี่ตามที่คนล้านนาใช้เรียกเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ส่วนคำว่า เป็ง หมายถึง พระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ เนื่องจากประเพณีนี้จะจัดขึ้นในวันเพ็ญเดือนสองของชาวล้านนา ซึ่งตรงกับเดือนสิบสองตามปฏิทินจันทรคติไทย และในเทศกาลยี่เป็งจะจัดขึ้น 3 วัน ได้แก่
วันขึ้น 13 ค่ำหรือ วันดา เป็นวันเตรียมข้าวของสำหรับทำบุญที่วัด
วันขึ้น 14 ค่ำ เป็นวันที่หลายครอบครัวพากันไปทำบุญ ถือศีล ฟังธรรมกันที่วัด และมีการทำกระทงใหญ่ไว้ ที่ลานวัด และนำของกินมาใส่กระทงไว้เพื่อเป็นการทำทานให้แก่คนยากจน
วันขึ้น 15 ค่ำ ก็จะนำกระทงใหญ่นั้น และกระทงเล็ก ๆ ส่วนตัวไปลอยในแม่น้ำ โดยภายในงานยี่เป็งนอกจากร้านค้าขายของแล้ว ยังมีกิจกรรม
กิจกรรมประกวดกระทงใหญ่ ชิงถ้วยพระราชทานฯ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำอิสระ ณ งานเทศกาลยี่เป็ง
พักที่ (N1) โรงแรม วีร์บริษา (เชียงใหม่) หรือเทียบเท่า พักห้องละ 2-3 ท่าน
07.00 น. อรุณสวัสดิ์ รับประทานอาหารเช้า(3)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. ออกเดินทางสู่ อ.บ้านธิ ชม วัดศรีดอนชัย วัดเก่าแก่ของอำเภอบ้านธิ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากลำแม่น้ำกวง สถานที่ประดิษฐาน พระพุทธเฉลิมสิริราช พระพุทธรูปปางลีลา ความสูง 59 ศอก ซึ่งสูงและใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ สร้างขึ้นจากศรัทธาของประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธา เมื่อปี พ.ศ. 2538 นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ให้ไดสักการะอีกด้วย
ชม วัดดอยติ วัดที่มีรูปปั้นครูบาศรีวิชัยองค์ใหญ่ที่สุดในไทย สร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ.2025 และได้รับวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. 2125 ภายในวัดก็จะมีสิ่งก่อสร้างมากมาย ตั้งแต่ อุโบสถ กุฏิสงฆ์ ปูชนียวัตถุ รวมถึง พระพุทธรูปพระประธานก่อด้วยศิลาแลงโบกปูน 1 องค์ด้วยค่ะ อีกทั้งยังมี รูปจำลองครูบาศรีวิชัย โดยครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนานั้น เป็นชาวลำพูนโดยกำเนิด และเป็นปูชนียบุคคลที่สำคัญที่ชาวลำพูนและชาวล้านนาให้ความเคารพนับถือค่ะ เลยเป็นเหตุผลทำให้มี อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยที่ใหญ่ที่สุดอยู่บน วัดดอยติลำพูน แห่งนี้ ซึ่งมีความโดดเด่นอยู่อย่างมาก เพราะตั้งอยู่บนเนินยอดดอย นับได้ว่าเป็นพระรูปครูบาศรีวิชัยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่เคยเห็นมาเลยค่ะ
แล้วเดินทางสู่ อ.เมือง จ.ลำพูน ชม วัดพระยืน วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองลำพูน มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของเมืองหริภุญชัย สิ่งสำคัญภายในวัด คือ พระเจดีย์ทรงมณฑป มีพระพุทธรูปยืนทั้ง 4 ทิศ เครื่องบนประกอบด้วยเจดีย์ห้ายอด โดยมีเจดีย์ทรงระฆังและเจดีย์ทรงกลมขนาดเล็กเป็นประธาน คล้ายกับอานันทเจดีย์ที่เมืองพุกามและเจดีย์วัดป่าสัก จังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ให้ได้สักการะ ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้าทันใจ ท้าวเวสสุวรรณ
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน(4)ที่ ข้าวซอยบ้านยอง
บ่าย นำท่านชม กู่ช้าง กู่ม้า เชื่อกันว่าหากได้ลอดท้องพระยาช้างเชือกนี้ จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่คู่กัน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอีกแห่งหนึ่งที่ชาวลำพูนให้ความเคารพนับถือ เมื่อต้องการ สมหวังในสิ่งใด ก็มักจะมา ขอพรกันที่นี่ เรียกได้ว่าเป็นทั้งโบราณสถานที่มีความสำคัญเชิงประวัติศาสตร์ และโบราณคดี ตลอดจนเป็น ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ของคนในชุมชน ด้วยความเชื่อว่าเป็นสุสานช้างศึก – ม้าศึก คู่บารมีของพระนางจามเทวี ชาวลำพูนให้ความเคารพนับถือกู่ช้างมาก มีการสร้างศาลเจ้าพ่อกู่ช้างไว้ในทางทิศตะวันออกใกล้กับองค์เจดีย์ด้านหน้า ศาลเจ้าพ่อกู่ช้าง มีรูปปั้นจำลองของปู่ก่ำงาเขียว เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มาสักการะ เชื่อกันว่าหากได้ลอดท้องพระยาช้างเชือกนี้ จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา
ชม วัดสันป่ายางหลวง วัดเก่าแก่ของจังหวัด สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1074 วัดที่ติด 1 ใน 5 วัดที่สวยที่สุด ในประเทศไทย ประดิษฐานพระอัฐิธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ พระสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยอายุที่ยาวนานกว่าพันปี ทำให้วัดแห่งนี้ต้องผ่านพ้นหลายยุคหลายสมัย สถาปัตยกรรมของที่นี่จึงได้รับอิทธิพลมาจากหลากหลายวัฒนธรรม มีการแกะสลักลวดลายปูนปั้นไว้อย่างสวยสดงดงาม และที่โดดเด่นที่สุดคือ ศิลปะแบบหริภุญชัยแท้ ๆ อย่าง พระวิหารพระโขงเขียว หรือพระวิหารพุทธรัตนมหานทีศรีหริภุญชัย (พระหยกเขียวจากแม่น้ำโขง) มีการแกะสลักลายปูนปั้นไว้ในพระวิหารอย่างสวยงาม แม้กระทั่งมุมหน้าจั่ว เชิงเพดานหลังคาด้านต่าง ๆ รวมไปถึงเสาพระวิหารก็จะแกะสลัก ลงรักปิดทองไว้ และใช้วัสดุเสาไม้ตะเคียนทอง ไม้แดง จากประเทศลาว เมียนมา และไทยในการสร้าง นอกจากนี้ในอดียยังใช้เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงศพพระนางจามเทวีด้วย จึงถือเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดลำพูนที่ควรไปสักการะสักครั้ง
ชม วัดมหาวันวนาราม เป็นพระอารามหลวงของพระนางจามเทวี เจดีย์วัดมหาวันเป็นที่บรรจุพระรอดลำพูน 1 ใน 5 พระเครื่องชุดเบญจภาคีที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด เชื่อกันว่า พระรอดมีความศักดิ์สิทธิ์หรือความขลังในด้านแคล้วคลาด ปราศจากภัยอันตรายและความวิบัติต่างๆ มีเสน่ห์เมตตามหานิยม ได้ลาภผลและคงกระพันชาตรี
วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ของลำพูน ที่มีอายุยาวนานถึง 1,300 ปี ตั้งอยู่ที่ถนนจามเทวี ห่างจากอนุสาวรีย์พระนางจามเทวีประมาณ 1 กิโลเมตร มีชื่อเต็มคือ วัดมหาวันวนาราม เป็นอีกหนึ่งในอดีตเป็นอารามหลวงในสมัยพระนางจามเทวี และเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์วัดมหาวัน ซึ่งบรรจุพระรอดลำพูน 1 ใน 5 พระเครื่องชุดเบญจภาคีที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด เชื่อกันว่าพระรอดองค์นี้มีความสักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก สามารถขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีและคุ้มครองผู้ที่ไปกราบไหว้บูชาให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายและความวิบัติต่าง ๆ มีเสน่ห์เมตตามหานิยม รวมถึงให้โชคลาภอีกด้วย สมัยก่อนที่นี่เป็นที่ปลุกขวัญกำลังใจให้แก่ประชาชนและเหล่าทหารที่ต้องสู้รบในยามศึก ในปัจจุบันก็ยังเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านทั่วไป
นำท่านสักการะอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระนางจามเทวี ซึ่งเป็นองค์ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย พระนางเป็นปราชญ์ที่มีคุณธรรม ความสามารถและกล้าหาญ ได้นำพุทธศาสนาศิลปวัฒนธรรมมาเผยแพร่ในดินแดนแถบนี้จนมีความรุ่งเรืองสืบมาจนถึงปัจจุบัน
ชม วัดจามเทวี ไหว้พระเจดีย์เก่าแก่ แห่งหริภุญชัย เป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญมา ตั้งแต่สมัยล้านนาไทย มีพระเจดีย์เหลี่ยม สัญลักษณ์ของวัดที่มีเอกลักษณ์ และได้เป็นต้นแบบให้แก่สถาปัตยกรรมล้านนาไทยในยุคสมัยโบราณ ที่มีความสําคัญทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ และโบราณคดีตามหลักฐานที่ได้พบศิลาจารึกเชื่อว่า พระราชโอรส ของพระนางจามเทวีปฐมกษัตริย์ แห่งนครหริภุญชัย โปรดให้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อถวายพระเพลิง
18.00 น. นำท่านเที่ยวงาน เทศกาลโคมแสนดวง ณ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหารวิหาร จ.ลำพูน ชมโคมหลากสีสันประดับไฟสว่างไสว เปิดให้ประชาชนนักท่องเที่ยว บูชาและถวายโคม แขวนโคม การถวายโคมแสนดวงจัดทำขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาต่อองค์พระธาตุเจ้าหริภุญชัย และเพื่อเคารพสักการะพระนางจามเทวีปฐมกษัตริย์แห่งเมืองลำพูน เมื่อถึงงานเทศกาลยี่เป็ง ชาวล้านนาจะนิยมประดับประดาตกแต่งบ้านเรือนให้สวยงามด้วยการจุดผางประทีปหรือประดับโคมไฟให้สว่างสดใสตลอดช่วงเทศกาล ชาวล้านนาเชื่อว่าการทำโคม เป็นการบูชาพระพุทธเจ้าที่ประทับ บนสรวงสวรรค์ และแสงประทีปจากโคมจะช่วยส่องประกายให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง อยู่เย็นเป็นสุข วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหารวิหารจ.เป็นปูชนียสถานสำคัญในภาคเหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนานตั้งอดีตนับเวลามากกว่าพันปี ยังเป็นองค์พระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีระกา
ค่ำ อิสระอาหารค่ำ ณ เทศกาลโคมแสนดวง
พักที่ (N2) โรงแรม วีร์บริษา (เชียงใหม่) หรือเทียบเท่า พักห้องละ 2-3 ท่าน
08.00 น. อรุณสวัสดิ์วันกลับ รับประทานอาหารเช้า(5)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม วัดหมื่นล้าน หากใครอยากรวย อยากปัง ต้องมาขอพรที่วัดนี้นะคะ ชื่อวัดคือเด่นเรื่องเงินมากๆค่ะ ใครอยากรวยรวยตามมาค่ะ ตามความเชื่อแล้วเค้าว่าวัดนี้ ไหว้ขอเรื่องการเงินจะเฮงจะปังค่ะ
วัดหมื่นล้าน หรือเก่าของวัดก็คือ วัดหมื่นสามล้าน สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2002-พ.ศ. 2005 ในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ราชวงศ์มังราย โดยผู้สร้างวัดก็คือขุนพลของพระองค์ ชื่อว่า หมื่นโลกสามล้านขุนพลแก้ว หรือ หมื่นด้ง ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่ออุทิศแก่แม่ทัพของอยุธยาที่แพ้ในช่วงสงครามและเสียชีวิตในสนามรบนั่นเอง รวมถึงยังเป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แม่ทัพนายกองของล้านนา
นำท่านชม วัดศรีสุพรรณ อัศจรรย์ “โบสถ์เงินหลังแรกของโลก เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นของจังหวัดเชียงใหม่ ที่โด่งดังขึ้นชื่อในเรื่องของ “อุโบสถเงินหลังแรกของโลก” ที่สร้างขึ้นอย่างงดงามวิจิตร รวมถึงมี “ท้าวเวสสุวรรณเงินคู่” 2 องค์ที่สร้างจากเงินสะท้อนอัตลักษณ์ชองชุมชน วัดศรีสุพรรณมี 2 สิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชน ได้แก่
พระบรมธาตุวัดศรีสุพรรณ อายุเก่าแก่กว่า 500 ปี ที่เพิ่งพังถล่มลงไปตามที่ปรากฏไปข้างต้น พระธาตุองค์นี้เดิมก่อนพังถล่ม เป็นเจดีย์ที่ก่ออิฐถือปูนแบบล้านนา ฝีมือช่างหลวง องค์ระฆังเป็นทรงกลม ตั้งบนฐานดอกบัวคว่ำบัวหงายแปดชั้นแปดเหลี่ยม ตั้งบนฐานรองรับทรงสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สามสิบหก ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการบูรณะมาหลายครั้งแล้ว อีกทั้งยังมีข้อมูลระบุว่าพระธาตุองค์นี้มีลักษณะที่เอียงได้ช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว
พระเจ้าเจ็ดตื้อ พระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสนผสมสุโขทัย ที่เป็นองค์พระประธานของวัดศรีสุพรรณ ซึ่งตามหลักศิลาจารึกของวัดศรีสุพรรณกล่าวไว้ว่า ในปี พ.ศ.2043 พระเจ้าพิลกปนัดดาธิราช หรือพระเมืองแก้ว กษัตริย์เมืองเชียงใหม่ ในราชวงศ์มังราย และพระนางสิริยสวดี พระราชมารดาเจ้า โปรดเกล้าให้เจ้าหมื่นหลวงจ่าคำมหาอำมาตย์ นำพระพุทธรูปทองสำริดองค์หนึ่งมาถวายให้เป็นพระประธานในอุโบสถเมื่อคราวที่สร้างวัดแห่งนี้
นำท่านชม วัดเชียงมั่น นิยมขอพรให้มีอายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรง
วัดเก่าแก่และวัดแห่งแรกของตัวเมืองเชียงใหม่ เขตกำแพงเมือง สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 1839 โดย พ่อขุนเม็งราย หลังจากที่พระองค์ได้สร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นแล้ว ก็ทรงยก "ตำหนักเชียงมั่น" เพื่อถวายให้สร้างเป็นพระอารามชื่อว่า "วัดเชียงมั่น" ในอดีต คือ วัดคู่พระบารมีของพระนางเจ้าจามเทวีปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย และพญาเม็งราย ปฐมกษัตริย์แห่งล้านนา นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาและเผยแพร่พุทธศาสนา รวมถึงเป็นสถานที่เก็บรักษาโบราณวัตถุ ที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์เชียงใหม่ด้วยเช่นกันค่ะ ภายในมี
*********จนได้เวลาออกเดินทางสู่ บ่อสร้าง
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวันอิสระ บริเวณบ้านบ่อสร้าง
บ่าย นำท่านชม ศูนย์หัตถกรรมทำร่มบ่อสร้าง นำท่านเรียนรู้วิธีการทำร่มบ่อสร้างที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก จนได้เวลาเดินทางสู่ ตัวเมืองเชียงใหม่ ให้ท่านได้ซื้อของฝากกลับบ้าน ณ วนัสนันท์ จนเวลาเดินทางสู่ คลองแม่ข่า (โอตารุเมืองไทย) แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเชียงใหม่ ที่เป็นดั่งถนนคนเดิน บรรยากาศดีสามารถเลือกชมสินค้าที่มีความเก๋หลากหลายแนวและหลากหลายสไตล์ นอกจากนี้ยังสามารถเติมความอร่อยไปกับของทานเล่นจากร้านต่างๆที่ขนาบคลองแม่ข่า
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำอิสระ ณ คลองแม่ข่า จนได้เวลาเดินทางกลับ
05.30 น. เดินทางถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ.....................
วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | |
---|---|---|---|---|
14 พ.ย. 67 - 18 พ.ย. 67 | 3,999 บาท | 1,800 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
รายการนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม แต่คำนึงถึงลูกค้าเป็นหลัก
สิ่งของที่จำเป็นควรนำติดตัว ยาประจำตัว, รองเท้าสวมสบาย, เสื้อกันหนาว, ของใช้จำเป็น
6/162 ถนน วิภาวดีรังสิต แขวง สนามบิน เขต ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210