20.30 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น4 เคาน์เตอร์สายการบินไทย เจ้าหน้าที่บริษัทต้อนรับและอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน กระเป๋าเดินทางโหลดท่านละ 1ใบน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัมเท่านั้น
23.45น. ออกเดินทางจากสู่ กัลกัตตา โดยสายการบิน Thai Airways เที่ยวบินที่ TG313 (บริการอาหารและเครื่อดื่มบนเครื่อง) เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง 30 นาที
00.45 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติเนตาชี สุภาษ จันทระ โพส เมืองกัลกัตตา (Kolkata) (Netaji Subhash Chandra Bose International Airport) ตามเวลาท้องถิ่น ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระ...นำท่านเดินทางสู่โรงแรมโดยรถบัส เข้าที่โรงแรมที่พัก
ที่พัก: Howard Johnson by Wyndham (Kolkata) ระดับ 4ดาว หรือเทียบเท่า
06.30 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม...
07.30 น. เดินทางสู่สนามบินกัลกัตตา ภายในประเทศ กระเป๋าเดินทางโหลดท่านละ 1ใบน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัมเท่านั้น
10.50น. ออกเดินทางจากสู่สนามบิน บักโดกรา (Bagdogra) โดยสายการบิน Indigo เที่ยวบินที่ 6E205 (ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
11.05 น. เดินทางถึง สนามบินบักโดกรา (Bagdogra) หลังรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นพาท่าน ออกเดินทางโดยรถ Innova คันละ 4-5 ท่าน (เนื่องจากเส้นทางในสิกขิมเป็นถนนเส้นเล็กการเดินทางโดยรถเล็กจะสะดวกในการเดินทางเราจะใช้รถเล็กในการเดินทางตลอดทริป) นำท่านเดินทางสู่ “ดาร์จีลิ่ง” (Darjeeling) ราชินีแห่งขุนเขา เป็นเมืองที่อยู่ในรัฐเบงกอลตะวันตกของอินเดีย ตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัย ที่ระดับความสูงระดับ 2000 เมตรจากระดับน้ำทะเล เมื่อครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่พักตากอากาศในช่วงฤดูร้อนของชาวอินเดีย และเป็นที่ตั้งของทางรถไฟสายดาร์จีลิงหิมาลัยซึ่งได้รับการจดบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ถือเป็นรถจักรไอน้ำเพียงไม่กี่สายที่ยังให้บริการในประเทศอินเดีย
ระหว่างสู่เมืองดาร์จีลิ่ง นำท่านแวะ ชมวัดทิเบตกูม กอมปา“GHOOM GOMPA” เป็นวัดโบราณแต่ได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมใหม่ เพื่อบอกว่า “เมืองนี้เป็นศูนย์รวมของความแตกต่างทางความเชื่อหลากหลาย ทั้งพุทธ อิสลาม ฮินดู แม้กระทั่งคริสต์ก็ตาม”ที่แห่งนี้จึงดูกลมกลืนงดงามและทรงเสน่ห์อย่างมิอาจลืมเลือน...การสวดมนต์ก็เดินหมุนวงล้อสวดมนต์ที่มีอยู่รอบวัดด้านนอกตามเข็มนาฬิกาจนครบ 1 รอบ อธิษฐานขอพรได้ตามที่ปราถนาเลย
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องของโรงแรม/ภัตตาคาร
บ่าย พาท่านไปชม ไร่ชา Happy Valley Tea Garden ก่อตั้งโดยคุณ David Wilson ในปี ค.ศ. 1854 ซึ่งในตอนนั้นรู้จักกันในชื่อ Wilson Tea Estate เป็นไร่ชาที่เก่าแก่เป็นอันดับสองของดาร์จีลิง สวนชา Happy Valley ได้รับการรับรองจากโครงการ United Nationls FAO ว่าเป็นที่ดินต้นแบบและได้รับการรับรองว่าเป็นสวนออร์กานิค
“ชาดาร์จีลิ่ง” ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นแชมเปญแห่งชา น้ำชา มีกลิ่นหอมและรสชาติอ่อนนุ่ม พร้อมทั้งมีรสชาติคล้ายกับเหล้าองุ่นแบบเจือจางอยู่ด้วย ชาดาร์จีลิ่งจึงเป็นชาที่เหมาะสมสำหรับดื่มระหว่างอาหารค่ำหรือการดื่มชาช่วงบ่าย ปลูกมากในแทบเทือกเขาหิมาลัย ส่วนชาเขียวดาร์จีลิ่งซึ่งมีรสชาติเยี่ยมเป็นเอกลักษณ์นั้น เป็นชาหายากเช่นเดียวกับชาเซนฉะของญี่ปุ่น ความสำคัญของชาดาร์จีลิงที่ถูกบันทึกไว้ในหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ คือการเป็นแหล่งปลูกชาที่ดีที่สุดในโลก สืบเนื่องจากที่อังกฤษถูกยกเลิกเอกสิทธิ์การนำเข้าชาจากประเทศจีน บริษัทอีสต์อินเดียจึงได้ทำการบุกเบิกในการทำไร่ชาในประเทศอินเดีย เนื่องจากพบว่ามีการปลูกชาในรัฐอัสสัมราวปี 1840 และ ถึงขนาดพูดกันว่า...หากเดินทางถึงดาร์จีลิงแล้ว ยังไม่ได้ชิมชาของที่นี่ก็เหมือนกับมาไม่ถึงดาร์จีลิ่งเลยทีเดียว...
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องของโรงแรม/ภัตตาคาร
ที่พัก: Summit Swiss Heritage Resort & Spa, (Darjeeling) ระดับ 4ดาว หรือเทียบเท่า
(ปลุกตื่นเช้ามาก) วันนี้พาท่านไปสัมผัส อากาศที่หนาวเย็นและบริสุทธิ์บน ยอดเขาไทเกอร์ฮิล(Tiger Hill) ระยะทางจากโรงแรมไปประมาณ 21 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง (เส้นทางขึ้นเขา) เพื่อไปชม “พระอาทิตย์ขึ้นที่ไทเกอร์ฮิล” ที่โผล่พ้นเหนือเทือกเขาหิมาลัยที่สูงเสียดฟ้า โดยเฉพาะยอดเขา “คันเช็นจุงก้า” (Kanchenjunga) ที่สูง 8,598 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก และสูงที่สุดในแถบเทือกเขาหิมาลัยในด้านอินเดีย หากอากาศดี ท่านจะเห็นยอดเขาคันเช็นจุงก้า ซึ่งเป็นยอดเขาที่ชาวสิกขิมเชื่อกันว่า เป็นที่เก็บสมบัติล้ำค่าทั้งห้าแห่งยอดเขาหิมะ และเป็นวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า อิสระเก็บภาพหิมาลัยจนถึงเวลานัดหมาย
ยอดเขาสูงอันดับโลก
อันดับ 1 คือ ยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ในเนปาล สูง 8,848 เมตร
อันดับ 2 คือ ยอดเขาเคทู ในปากีสถาน สูง 8,611 เมตร
อันดับ 3 คือ ยอดเขา คันเช็นจุงก้า อินเดีย ที่สูง 8,598 เมตร
07.00 น. ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่โรงแรมเส้นทางเดิม
08.00 น บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
09.00 น. นำท่านไปนั่ง รถไฟ TOY TRAIN สถานีรถไฟนี้มีชื่อเต็มๆว่า Darjeeling Himalayan Railway สร้างในปี ค.ศ. 1879-1881 ใช้ระบบเครื่องจักรไอน้ำ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้ทางรถไฟสายนี้เป็นมรดกโลก รถไฟหัวรถจักรไอน้ำขนาดเล็ก เป็นรถไฟที่วิ่งบนภูเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 7,000 ฟุต รถไฟจะจอดให้ ชมอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (War memorial) สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1994 เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่เหล่าทหารกล้ากูรข่า สร้างเมื่อปี 1994 และ จอดให้ชมพิพิธภัณฑ์รถไฟ ชม บาตาเซียลูป (Batasia Loop) รางรถไฟที่สร้างขึ้นให้มีลักษณะเป็นวงใช้เป็นจุดเลี้ยวกลับของรถไฟที่มาจากสถานีดาร์จีลิง จนไปถึงสถานนี Ghoom (รวมเวลานั่งรถไฟ TOY TRAIN ประมาณ 2 ชั่วโมง)
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้น นำท่านชม สถาบันปีนเขาหิมาลัย (HMI) เป็นหนึ่งในสถาบันการปีนเขาชั้นนำของโลก ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 1954 โดยไม่มีใครอื่นนอกจากบัณฑิต Jawaharlal Nehru นายกรัฐมนตรีคนแรกของอินเดียสถาบันแห่งนี้ตั้งอยู่ในสถานีเนินที่งดงามของดาร์จีลิ่งดาร์จีลิ่งยังเป็นบ้านเกิดของ Sherpa Tenzing Norgay มนุษย์คนแรกที่ก้าวขึ้นไปบนยอดเขาที่สูงที่สุ ดของยอดเขาเอเวอเรสต์พร้อมกับเซอร์เอ็ดมันด์ฮิลลารี ปัจจุบัน HMI กลายเป็นสถานที่สำคัญของดาร์จีลิ่งและเป็นศูนย์กลางของแหล่งท่องเที่ยวมันสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของ Mount Kanchenjunga ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับสามของโลก
ชม สวนสัตว์ดาร์จีลิ่ง (Padmaja Naidu Himalayan) เป็นสวนสัตว์ที่สูงที่สุดในอินเดีย เป็นเสมือนสถาบัน ในการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ที่ปรับให้เข้ากับสภาพอัลไพน์และ การผสมพันธุ์ที่ประสบความสำเร็จสำหรับ เสือดาวหิมะ , หมาป่าหิมาลัยที่ ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง และ แพนด้าแดง สวนสัตว์ดึงดูดผู้เข้าชมประมาณ 300,000 คนทุกปี สวนแห่งนี้ได้รับการตั้งชื่อตาม Padmaja Naidu (2443-2518) ลูกสาวของ Sarojini Naidu สวนสัตว์นี้ยังทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับการจัด สวนสัตว์กลางของ โปรแกรมแพนด้าแดง ของอินเดีย และเป็นสมาชิกของ สมาคมโลกแห่งสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
จากนั้น นำท่านเดินช้อปปิ้ง ตลาดพื้นเมืองชอร์รัสต้า (Chowrasta Darjeeling) ตลาดพื้นเมือง แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง เป็นย่านที่ถนนสี่สายมาบรรจบกัน เพราะฉะนั้นที่นี่จึงมีถนนแยกไปได้หลายสาย โดยเฉพาะย่านถนน The Mall ซึ่งเป็นถนนที่สวยงาม มีสินค้าพื้นเมือง ของฝาก ของที่ระลึกมากมายให้เลือกช้อปปิ้งกัน..... จากนั้นนำท่านเข้าที่พัก
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม/ภัตตาคาร
ที่พัก: Summit Swiss Heritage Resort & Spa, (Darjeeling) ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (บุฟเฟต์)
08.00 น. นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองดาร์จีลิ่ง - เมืองกังต๊อก (Gangtok) ระยะทาง 96 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง(ขึ้นอยู่การจลาจร) “เมืองกังต็อก” (Gangtok) เมืองหลวงแห่งรัฐสิกขิม “รัฐสิกขิม” (Sikkim) เมืองสายหมอก เป็นรัฐทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย มีภูมิประเทศแบบที่ราบสูงบนเทือกเขาหิมาลัย มีพรมแดนติดกับหลายประเทศ อาทิ เขตปกครองตนเองทิเบต, เนปาล และภูฏาน แต่เดิมสิกขิมเป็นรัฐเอกราช มีขนาดใหญ่กว่ากรุงเดลี เมืองหลวงของอินเดียเล็กน้อย ปกครองโดยราชวงศ์นัมเยล ด้วยความเป็นรัฐเอกราชเล็กๆ อาจถูกบั่นทอนจากจีนซึ่งยึดทิเบตได้แล้วขณะนั้น เมื่ออินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ รัฐสิกขิม จึงยอมอยู่ใต้เอกราชเดียวกับอินเดีย... บักโดกราห่างจากเมืองกังต๊อกประมาณ 115 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 4 ชั่วโมง.ชมวิวทัศน์ระหว่างสองข้างอย่างสวยงาม
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชม วัดรุมเต็ก (Rumtek Monastery) วัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในสิกขิม ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 1,550 เมตร จากระดับน้ำทะเล หรือ ศูนย์ธรรมจักร (Dharmachakra Centre) เป็นสถานที่ศึกษาและปฏิบัติธรรม เป็นวัดศาสนาพุทธที่ใหญ่ที่สุดในสิกขิม ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 1,550 เมตร วัดรุมเต็กคือศูนย์กลางของพระลามะนิกายหมวกดำ (Black Hat Lama) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสถานที่ประทับของกรรมาปะองค์ที่ 17 ของโลก ซึ่งได้รับความเคารพนับถืออย่างมาก มีสถาปัตยกรรมแบบทิเบตปัจจุบันเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในสิกขิม จากนั้นไม่นานพระสังฆราชการ์มาปาที่ 16 ได้สถาปนาวัดนี้เป็น ศูนย์ธรรมจักร สถานที่ใช้เรียน ฝึกฝนและปฏิบัติตนของชาวพุทธรวมทั้งเผยแผ่คำสอนของพระพุทธเจ้าในวันขึ้นปีใหม่ของทิเบต ในปี ค.ศ. 1966
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก: The Fern Denzong Hotel & Spa, Gangtok, Sikkim ระดับ 4ดาว หรือเทียบเท่า
หมายเหตุ : คืนนี้ก่อนนอน เตรียมแยกกระเป๋าจัดเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นสำหรับใช้ในสิกขิมเหนือ 2 คืน (ของที่ยังไม่จำเป็นต้องใช้ ฝากไว้ที่โรงแรมได้ค่ะ)
06.00 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
07.00 น. นำท่านออกเดินทางสู่ หมู่บ้านลาชุง (Lachung) หมู่บ้านกลางหุบเขา “ลาชุง” แปลว่า ภูเขาขนาดเล็ก เมืองลาชุง เป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ อยู่ทางตอนเหนือของสิกขิม และมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศจีน ห่างจากเมืองกังต็อกราว 116 กิโลเมตร (รวมเวลาทั้งวันและจอดแวะจุดชมวิวตลอดการเดินทาง ประมาณ 6 ชั่วโมง) ผู้คนหมู่บ้านแห่งนี้ เรียกขานกันว่าชาวลาชุงปา บรรพบุรุษสืบเชื้อสายมาจากชาวคัมปา (ทิเบตตะวันออก) และความที่ชาวลาชุงปา มีส่วนในประวัติศาสตร์ บ้านลาชุง (Lachung) ในอดีต ลาซุงเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างสิกขิมและทิเบตมาก่อน แต่ด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นกับทิเบต จึงทำให้มีการปิดเมืองไปนาน เพิ่งจะเปิดเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้เอง
แวะชม น้ำตกเจ็ดพี่น้องกังต็อกThe Seven Sisters Waterfall เป็นน้ำตกยอดนิยมที่ตั้งอยู่บนทางหลวง Gangtok- Lachung น้ำตกทั้ง 7 แห่งที่เรียงตัวกันอย่างกลมกลืนบนหน้าผาสูงชันที่โดดเด่นหากมองจากระยะไกล กลายเป็นสถานที่ที่ต้องไปชมในกังต็อกหลังฝนตกเลยทีเดียว
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร ของโรงแรม (ระหว่างทาง)
บ่าย เดินทางต่อไป “หมู่ลาชุง” ผ่านเส้นทางธรรมชาติ น้ำตกน้อยใหญ่ตลอดเส้นทาง และวิวผืนป่าเขียวขจี ของเทือกเขาหิมาลัย ไปจนสุดเส้นทาง แวะถ่ายรูปกับ น้ำตกนากา Naga Water Fall เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่ง ที่หมู่บ้านลาชุง ช่วงหน้าหนาว ทั้งหมู่บ้านจะอยู่ใต้หิมะ มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศจีน ประชากรของเมืองนี้ส่วนใหญ่ จะเป็นชาวเลปซาและชาวทิเบต เพราะลาชุง เคยเป็นแหล่งการค้าระหว่างสิกขิมและทิเบตมาก่อน ส่วนภาษาที่ใช้สื่อสาร ก็จะเป็นภาษาเนปาลี เลปซา และภาษาภูเทีย ลาชุง เป็นดินแดนที่อยู่ท้ายสุดบนภูเขาสูง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนบนภูเขาสูงหมู่บ้านลาชุง เป็นจุดสุดท้ายในภาคเหนือที่ทางการอนุญาตให้พักแรมค้างคืนในการท่องเที่ยวสิกขิม
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก: Summit Khangri Karpo Retreat & Spa, Lachung หรือเทียบเท่า
07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
08.00 น. นำท่านเดินทางสู่ หุบเขายุมถัง (Yumthang Valley) หุบเขายุมถัง ตั้งอยู่บนระดับความสูง 3,600 – 4,200 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล อยู่ห่างจากลาชุง ประมาณ 24 กม.เป็นหุบเขาที่มีธรรมชาติงดงามที่สุดในสิกขิม ความงดงามของธรรมชาติที่เต็มไปด้วยหิมะ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิระหว่างเดือนเมษายน ถึงพฤษภาคม ทั่วทั้งอาณาบริเวณเส้นทางขึ้นหุบเขายุมถังจะเต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้นานาพันธุ์ หุบเขายุมถัง ได้รับสมญานามว่า “สวิสแห่งเอเชีย” ที่นี่นอกจากจะเป็นดินแดนแห่งดอกไม้ และมีดอกกุหลาบพันปีกว่า 24 สายพันธุ์แล้ว ยังมีน้ำพุร้อน และที่ปลายสุดของยอดเขาสูง“Zero Point”ก็เป็นดินแดนสวยงาม ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ บน“Zero Point”มีความสูงถึง4,800เมตรจากระดับน้ำทะเลให้ท่านได้ถ่ายภาพอันสวยงามมิรู้ลืมระหว่างทางก่อนถึงหุบเขายุมถังจะมีจุดดูนกที่น่าสนใจอยู่อย่างน้อย 2 จุด ได้แก่ เขตอนุรักษ์กุหลาบพันปีชิงบา (Shingba Rhododendron Sanctuary) และ หุบเขาภูนี (Phuni Valley) ซึ่งจากที่พักรถจะวิ่งลัดเลาะไปตามแนวเขาค่อย ๆ ไต่ระดับสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ แบบกล่อง / ห้องอาหารของโรงแรม
บ่าย จุดสุดท้ายของถนนที่ Nort sikim ติดต่อชายเเดนประเทศจีน ที่ความสูง สี่พันกว่าเมตร ใช้เส้นทางต่อเนื่องจาก หุบเขายุมถัง ระหว่างทางขึ้น zero point แวะ มีจุดสำหรับชมวิวถ่ายรูป และเดินทางไปอีกประมาณ 40 นาทีก็จะเจอกับ zero point บรรยากาศความงดงามของแนวเทือกที่สูงเสียดฟ้าสลับซับซ้อนและแฝงไปด้วยกลิ่นอายความศรัทธา “สวิสเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย” ตั้งอยู่สูงถึง 3564 m จากระดับน้ำทะเล เมื่อขึ้นไปถึงข้างบนลมพัดค่อนข้างแรงควรใส่เสื้อกันหนาวที่กันลมได้ถ้ามีฮูดด้วยจะดีมาก เราจะอยุ่ตรงนี้เพียง 15-20 นาทีเท่านั้น ไม่ควรเคลื่อนไหวตัวเร็วนักเนื่องจากอากาศเบาบางอาจทำให้เกิดอาการแพ้ความสูงได้
….. ได้เวลาอันสมควร เดินทางกลับสู่หมู่บ้านลาชุง อิสระชมทิวทัศน์ระหว่างสองข้างทางที่สวยงามตลอดจากนั้นเดินทางกลับที่พัก
(หมายเหตุ: การขึ้นสู่“Zero Point”ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศวันนั้นด้วยเช่นกัน บริษัทฯของสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนรายการตามความเหมาะสม)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก: : Summit Khangri Karpo Retreat & Spa, Lachung หรือเทียบเท่า
06.00 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
07.00 น. นำท่านออกเดินทางสู่ หมู่บ้านลาชุง – เมืองกังต๊อก (ประมาณ5- 6 ชม.) อิสระชมทิวทัศน์ระหว่างสองข้างทางที่สวยงามตลอดเส้นทาง แวะนมัสการพระโพธิสัตว์ ในวิหาร วัดโปดอง (Phodong Monastery) วัดหลวงของ Karmapa 16 รุ่น ประวัติศาสตร์เกือบ 2,000 ปี ก่อนที่ในปัจจุบัน แถบนี้ผู้คนเป็นชาวทิเบต จึงสร้างอารามไว้หลายแห่ง ที่นี่อยู่ไกลบนขุนเขา กลางธรรมชาติอันตระการตา แม้จะเป็นวัดเก่าแต่ด้วยความเป็นวัดสำคัญ จึงได้รับการบูรณะปรับปรุงมาตลอด และมองดูคล้ายวัดใหม่สีสันแพรวพราว มีลามะจำพรรษาอยู่หลายสิบองค์
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ห้องอาหารของโรงแรม/ภัตตาคาร
บ่าย ถึงเมืองกังต๊อก นำท่าน นั่งกระเช้าลอยฟ้ากังต็อก (Gangtok Ropeway) ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในสิกขิม ซึ่งมีทิวทัศน์อันน่าทึ่งของภูมิภาคนี้ ระหว่างนั่งมองทัศนียภาพอันงดงามของเมือง ซึ่ง สามารถมองเห็น Deorali Bazar และทิวทัศน์อันงดงามของยอดเขาและหุบเขาหิมะบนภูเขา Kanchenjunga และคุณยังสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของแม่น้ำที่ไหลด้านล่างประมาณ 3,500 ฟุตซึ่ง การนั่งรถเคเบิลในกังต็อกเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน
นำท่านช้อปปิ้งที่ Mahatma Gandhi Road (M.G.Marg) ถนนมหาตมคานธี มาร์ก หรือ ถนนเอ็มจีมาร์ก เป็นถนนช้อปปิ้งสายหลักของสิกขิม
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก: The Fern Denzong Hotel & Spa, Gangtok, Sikkim ระดับ 4ดาว หรือเทียบเท่า
06.30 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม…พักผ่อนตามอัธยาศัย
07.30 น. ถึงเมืองกังต๊อกนำท่านชม ความงามแห่งดงดอกไม้นานาพันธ์ ณ Flower Exhibition Centre บ้านนิทรรศการดอกไม้ต่างๆ ซึ่งภายในจะจัดแสดงพันธุ์ไม้เมืองสิกขิมหลากหลายพันธุ์
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่บักโดกรา เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร/โรงแรม
13.00 น. เดินทางสู่ท่าอากาศยานบักโดกรา เมืองสีลิกูรี (บักโดกรา BAGDOGRA) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 4-5 ชั่วโมง) เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯจากนั้น
18.30 น. ออกเดินทางจากสู่ กัลกัตตา โดยสายการบิน Indigo เที่ยวบินที่ 6E6135 (ไม่มีบริการอาหารและเครื่อดื่มบนเครื่อง)
19.30 น. เดินทางถึง สนามบินกัลกัตตา นำท่านต่อเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ
02.40 น. ออกเดินทางจากสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Thai Airways เที่ยวบินที่ TG314 (บริการอาหารและเครื่อดื่มบนเครื่อง)
06.10 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
6/162 ถนน วิภาวดีรังสิต แขวง สนามบิน เขต ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210