06.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน โอมานแอร์ (WY) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง
09.10 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินมัสกัต ประเทศโอมาน โดยสายการบิน โอมานแอร์เที่ยวบินที่ WY818 (บริการอาหาร และเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6.10 ชั่วโมง)
12.00 น. เดินทางถึง สนามบินมัสกัต ประเทศโอมาน (เวลาท้องถิ่น) จากนั้นรอต่อเครื่องเพื่อเดินทางสู่ เมืองซูริค ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์(รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 3 ชั่วโมง)
15.00 น. ออกเดินทางสู่สนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์โดยสายการบิน โอมานแอร์เที่ยวบินที่ WY153 (บริการ อาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6.15 ชั่วโมง)
19.05 น. ถึง สนามบินซูริค เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์นำท่านผ่านพิธีการตรวจคน เข้าเมือง, ศุลกากรและรับสัมภาระเรียบร้อย (เวลาประเทศสวิตเซอร์แลนด์ช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง กรุณา ปรับเวลาให้ตรงตามเวลาท้องถิ่น เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร หลังรับสัมภาระเรียบร้อยนำท่านเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก : โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซังค์กัลเลน (St.Gallen) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง) เมืองที่ตั้งอยู่ทาง ตะวันออกของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 7 เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการศึกษาและประกอบพิธีกรรม ทางศาสนา นำท่านแวะถ่ายรูป มหาวิหารซังค์กัลเลน (St.Gallen Cathedrl) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 8 แบบ สไตล์โรมาเนสก์ผสมผสานกับบารอก เพื่อเป็นสำนักสงฆ์และใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา อิสระให้ท่านเดินเล่น ชมเมืองตามอัธยาศัย นำท่านเดินทางสู่ เมืองชาฟฟ์เฮาเซิน ชมความยิ่งใหญ่และสวยงามของน้ำตกไรน์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง) น้ำตกที่ใหญ่ที่สุด ในทวีปยุโรป เกิดจากการที่ แม่น้ำไรน์ ซึ่งเป็นแม่น้ำ นานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป ไหลจากต้นน้ำในเทือกเขา แอลป์ มาบรรจบบริเวณที่พื้นที่ โลกเปลี่ยนระดับจึงกลายเป็น น้ำตกที่สวยงามมาก ตัวน้ำตก มีความสูง 25 เมตร กว้าง 150 เมตร มีอายุราว 14,000 – 17,000 ปี ให้ท่านได้ชื่นชมธรรมชาติ และถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองสตราสบูร์ก(Strasbourg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชั่วโมง) เมืองหลวงแห่ง แคว้นอัลซาส(Alsace) ของประเทศฝรั่งเศส และยังเป็นได้รับการยกย่องเป็นเมืองมรดกโลกด้านมนุษยชาติจาก องค์การยูเนสโกเมืองซึ่งผสมผสาน 2 วัฒนธรรมคือ ฝรั่งเศสและเยอรมัน เนื่องจากในอดีตถูกผลัดเปลี่ยนอยู่ภายใต้ การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา ทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งขององค์กรสำคัญของยุโรป อาทิ สภายุโรป องค์กร สิทธิมนุษยชน และศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป ที่นี่ยังเป็นเมืองมหาวิทยาลัยดังชั้นนำที่เกอร์เธ (Goethe) นักเขียน ชาวเยอรมันเคยศึกษาอยู่ เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก : โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านริเกอวีร์ (Riquewihr) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) หมู่บ้านเล็กๆ ที่โอบล้อมไป ด้วยไร่องุ่น มีชื่อเสียงในเรื่องการทำไวน์ และขนมท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยความน่ารักเหล่านี้ทำให้ริ เกอวีร์ ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก และยังขึ้นชื่อว่าเป็น Les Plus Beaux Villages De France หมู่บ้านที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส
จากนั้นชม เมืองไกเซอร์สแบร์ก (Kaysersberg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) หากแปลเป็นภาษาไทยก็คือ ภูเขาของจักรพรรดิ และในปี ค.ศ. 2016 ไปรวมเข้ากับหมู่บ้น Vignoble ชื่อใหม่เป็น Kaysersberg-Vignoble ที่ หมู่บ้านนี้เคยถูกใช้เป็นป้อมปราการสำหรับเตือนภัยที่มีความสำคัญในอดีต และเคยถูกยืดครองโดยเยอรมัน 2 ครั้ง ได้แก่ ช่วงสงครามฝรั่งเศส - รัสเซียและในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองเล็กๆน่ารัก ตั้งอยู่ในแคว้นอัลซาส Alsace เป็น 1 ใน 8 แคว้นผลิตไวน์ สำคัญของฝรั่งเศสถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมน ติคเมืองหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส อันเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไวน์แหล่งปลูกองุ่นพันธุ์ดี เพื่อผลิตไวน์ชั้นเลิศ บริเวณเชิงเขาของเทือกเขาโวชจ์ซึ่งมีไร่องุ่นจำนวนมากเคียงคู่ไปกับอุตสาหกรรมการผลิตไวน์ชั้นเยี่ยม นำท่านเดิน เที่ยวชมสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ ช่วยทำให้เมืองดูโรแมนติกยิ่งขึ้นมรดกทางสถาปัตยกรรมพบ เห็นได้จากโบสถ์แบบโกธิคและโรมันสไตล์ และอาคารเก่าหลายหลังสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 15 บ้านเรือนเรียงราย สองฝั่งคลองดูงดงามน่ารักจนได้รับการขนานนามว่า “ลิตเติ้ลเวนิส”
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเอกิซไฮม์ (Equisheim) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) เป็นหมู่บ้านที่งดงามราวภาพวาด ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคอาลซาส มีชื่อเสียงในด้าน สถาปัตยกรรมยุคกลางที่มีเสน่ห์ ศูนย์กลาง ประวัติศาสตร์ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี และยังได้รับยกย่องให้เป็น "Plus Beaux Villages de France" (หมู่บ้านที่สวย ที่สุดในฝรั่งเศส) นอกจากนี้ยังเป็นหมู่บ้าน ที่อยู่ในเส้นทางไวน์ Alsace และมีชื่อเสียง ในด้านการผลิตไวน์อีกด้วย อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง จากนั้น เดินทางสู่ เมืองบาเซิล (ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่มีประชากร หนาแน่นเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ เมืองบาเซิลตั้งอยู่ทางด้าน ตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศริมฝั่งแม่น้ำไรน์ และยังเป็นเมืองเก่าที่มีอายุกว่า 2000 ผ่านชม ศาลากลางบาเซิล (City Hall of Basel) ที่มีอายุมากกว่า 500 ปีตั้งอยู่ใจกลาง จัตุรัส Marktplatz อิสระให้ท่านเดิน ชมเมืองและช้อปปิ้งย่านจัตุรัส Marktplatz ถนนสายหลักของบาเซิลที่ขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่มีร้านค้ามากมาย เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ
อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก : โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเทรอ (Montreux) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เมืองพักผ่อนตากอากาศ ที่มีชื่อเสียงทั้งในฤดูร้อน และฤดูหนาว ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ซึ่งได้รับสมญานามว่า “ไข่มุกริเวียร่าแห่งสวิส” ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือน ริมทะเลสาบ แวะถ่ายภาพที่ระลึกกับ ปราสาทชิลยอง (Castle of Chillon หรือ Château de Chillon) นับว่าเป็นปราสาทยุคกลางที่มีความเก่าแก่กว่า 1,000 ปี โดยปราสาทถูก สร้างขึ้นในช่วงสมัยของโดยราชวงศ์ SAVOY ซึ่งถือได้ว่าเป็นอัญมณีทางประวัติศาสตร์ของสวิตเซอร์แลนด์ ในอดีต ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดควบคุมการเดินทางของนักเดินทาง และขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมา จากเหนือสู่ใต้ หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวอแว (Vevey) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) เมืองเล็กๆ น่ารักในรัฐโวด์ของ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บนชายฝั่งทางตอนเหนือของ ทะเลสาบเจนีวา ที่มีทิวทัศน์เบื้องหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ที่ งดงาม เป็นเมืองที่ศิลปินชื่อดังชาวอังกฤษอย่าง ชาร์ลีแชป ลิน ได้มาใช้ช่วงเวลา 25 ปีสุดท้ายในชีวิต ที่เมืองแห่งนี้ ภายหลังจากที่เค้าเสียชีวิตจึงได้มีการสร้างอนุสาวรีย์เพื่อ อุทิศให้กับเขา หันหน้าไปทางทะเลสาบเจนีวา และได้ เปลี่ยนบ้านที่เคยอยู่ให้เป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับผู้ที่สนใจ เกี่ยวกับชีวิตของศิลปินท่านนี้อีกด้วย และไม่ไกลจาก อนุสาวรีย์ชาร์ลี แชปลิน จะเห็น The Fork ส้อมขนาด ใหญ่ ทำจากสแตนเลสสูง 8 เมตร กว้าง 1.3 เมตร ออกแบบโดย Jean-Pierre Zaugg ชาว Neuchatel ตั้ง ตระหง่านตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.1995 เพื่อเป็นการรำลึกวันครอบรอบ10 ปี ของ Alimentarium (พิพิธภัณฑ์ อาหาร) ซึ่งได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง Vevey
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองโลซานน์ (Lausanne) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นเมืองหลวงของรัฐโว และ ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเจนีวาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 60 กิโลเมตร นำท่านชม มหาวิหารแห่งโลซานน์ (Cathédrale de Lausanne) (บริเวณภายนอก) หรือ ชื่อเต็มคือ อาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งโลซาน เป็นโบสถ์ คริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ อาสนวิหารแห่งนี้เริ่มก่อตั้งขึ้น ในศตวรรษที่ 12 ในปี ค.ศ. 1170 และแล้วเสร็จในปี 1235 ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค ต่อมาอาสนวิหารแห่งนี้ถูก ประกาศอุทิศให้แก่พระแม่มารีย์โดยคำประกาศของสมเด็จ พระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 10 ในปี 1275 และยังมีอีกชื่อ หนึ่งว่า มหาวิหารนอร์ทเทอร์ดาม (Notre-Dame)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเจนีวา (Geneva) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองใหญ่อันดับสอง ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (รองจากซูริค) โดยถือว่าเป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก มากมายเช่น ทะเลสาบเจนีวา น้ำพุเจ็ทโด้ เป็นต้น เมืองที่มีประชากรมากที่สุดในภาครอม็องดีอัน เป็นภูมิภาคที่ใช้ ภาษาฝรั่งเศสเป็นหลักในสวิตเซอร์แลนด์ นครเจนีวาตั้งอยู่บริเวณต้นแม่น้ำโรนซึ่งไหลออกจากทะเลสาบเจนีวา ณ ปัจจุบัน เจนีวามีสถานะเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐแห่งรัฐเจนีวา ในอดีตเมืองเจนีวาเคยอยู่ภายใต้การปกครอง ของโรมัน และฝรั่งเศส แต่เมื่อได้รับอิสรภาพจึงรีบหาพันธมิตรเพราะไม่อยากโดนรุกรานอีก โดยการเข้าร่วมเป็น สมาชิกพันธรัฐสวิส จากนั้นเจนีวาก็รู้จักอย่างกว้างขวางในนาม "เมืองแห่งองค์กรนานาชาติ"
นำท่านชม ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ทะเลสาบคล้ายรูปพระจันทร์เสี้ยว และเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถ่ายรูปกับ น้ำพุเจทโด (Jet d'Eau หรือ แฌโด) ที่ฉีดสายน้ำพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศถึง 140 เมตร (เปิดเฉพาะวันอากาศดี) และถ่ายรูปกับ นาฬิกาดอกไม้สัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองเจนีวา เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ
อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก : โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ สถานี Tasch station เพื่อนั่งรถไฟสู่เมืองเซอร์แมท (Zermatt) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เพื่อขึ้นรถไฟเข้าสู่ เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองเล็กๆ อยู่ในมณฑล VALAIS เมืองตั้งอยู่เชิงเขา แมท เทอร์ฮอร์น ยอดเขาแหลมสูงชันเสียดฟ้า สัญลักษณ์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอด เมืองปลอดมลพิษแห่งหนึ่งของโลก เนื่องจากทางรัฐบาลมีข้อจำกัดเรื่องการห้ามนำรถยนต์ที่ใช้น้ำมันและแก็สเข้า เขตตัวเมือง ภายในตัวเมืองจึงมีเพียงรถไฟฟ้า เพื่อบริการนักท่องเที่ยวและผู้คนที่ต้องการสัญจรไปมาเท่านั้น
อิสระท่านเดินเล่นในเมืองเซอร์แมท ชมวิวเขาแมทเธอร์ฮอร์นในมุมกว้าง หรือ ท่านสามารถเลือกซื้อ OPTIONAL TOUR นั่งรถรางขึ้นยอดเขากรอเนอร์แกรท เพื่อไปชมวิวยอดเขาแมธเธอร์ฮอร์นแบบใกล้ชิดมากขึ้น
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย **Optional Tour** เดินทาง โดยรถราง จากเมืองเซอร์แมท สู่ ยอดเขากรอเนอร์แกรท ซึ่งเป็นจุดถ่ายรูป ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่สวยที่สุด ของเทือกเขาแอลป์ โดยนั่งรถรางที่สถานีกรอเนอร์แก รท ขึ้นไปยังยอดเขา ชมทัศนียภาพธรรมชาติสวย ๆ ตลอดทาง จนกระทั่งถึงจุดชมวิว ท่านจะได้พบกับยอด เขาทรงพีระมิดสุดโด่งดัง ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่จะอวดโฉมให้ท่านเห็นแบบเต็มตา เดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Bern) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมายังสวิตเซอร์แลนด์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามด้วยบ้านเรือนใน บรรยากาศสบายๆ ตามสไตล์เมืองเก่าทั่วไป
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก : โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม บ่อหมีสีน้ำตาล Bear Park สัตว์ที่เป็น สัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น จากนั้นเที่ยวชม ย่านเมืองเก่า (Old City of Berne) ซึ่งได้รับการบรรจุไว้ในรายชื่อ มรดกโลกในปี ค.ศ. 1983 และก่อตั้งขึ้นในสมัย คริสต์ศตวรรษ ที่ 12 ตั้งอยู่บนภูเขาล้อมรอบด้วยแม่น้ำ อาเร (Aare River) ชม มาร์คกาสเซ ย่านเมืองเก่าที่ ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้ และร้านเสื้อผ้าบูติค เป็น ย่านที่ปลอดรถยนต์จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคาร เก่าอายุ 200 – 300 ปี ชม โบสถ์แห่งกรุงเบิร์น (The Cathedral of Bern) มหาวิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นใน สมัยยุคโกธิค ตั้งแต่ปี ค.ศ.1964 หอคอยมีความสูง ราวๆ 100 เมตร สร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1893 ถือเป็น มหาวิหารที่สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และถือเป็น สมบัติทางวัฒนธรรมของประเทศด้วย จากนั้นชม หอนาฬิกาดาราศาสตร์ ไซ้ท์ กล็อคเค่น (Zytglogge Clock Tower) หอนาฬิกายุคกลางที่มีชื่อเสียงที่สุดของย่านเมืองเก่าเบิร์น ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 อายุ 800 ปี จะมีโชว์ให้ดูทุกๆ ชั่วโมงที่นาฬิกาตีบอกเวลา ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของกรุง เบิร์น ถัดจากหอนาฬิกาไปไม่ไกล จะเป็น ไอน์สไตน์เฮาส์ (Einstein House) ท่านสามารถแวะถ่ายรูปภายนอก กับบ้านที่ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยอาศัยอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ รวมถึงภาพถ่าย เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่นักฟิสิกส์ชื่อก้องโลกคนนี้
เดินทางสู่ เมืองทูน (Thun) สวิตเซอร์แลนด์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองสวยริมทะเลสาบ เป็นที่ รู้จักในฐานะประตูสู่ Bernese Oberland ซึ่งเป็นเขตที่มีทั้งภูเขา เนินเขา และป่าสนและทะเลสาบอันสวยงาม หลายแห่ง ไม่ใช่เพียงเพราะที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่สวยงามเท่านั้น สถาปัตยกรรมของเมืองและภูมิทัศน์โดยรอบเป็น จุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับศึกษาประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และชมความงามตามธรรมชาติของภูมิภาคนี้ใน สวิตเซอร์แลนด์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เที่ยวชมเมืองสวยที่ราย ล้อมไปด้วยเทือกเขาสูง ซึ่งนอกจากเทือกเขาใหญ่แล้ว เมืองอินเทอร์ลาเคน ยังเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง 2 ทะเลสาบใหญ่คือ ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อาคารบ้านเรือนในเมือง ส่วนใหญ่จะสร้างด้วยสไตล์สวิสที่สวยและดูอบอุ่นให้เราได้ซึมซับ และสัมผัสกับความเป็นสวิตเซอร์แลนด์อย่าง เต็มที่ ทั้งหมดรวมกันแล้วทำให้เมืองนี้น่าสนใจและบรรยากาศดีจนกลายเป็นเมืองรีสอร์ทพักร้อนติดอันดับต้นๆ เลยทีเดียว อิสระให้ทุกท่านเดินเล่นถ่ายภาพ และช้อปปิ้งตามอัธยาศัย เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ
อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก : โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองแองเกลเบิร์ก (Engelberg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เพื่อ นั่งกระเช้าขึ้นสู่ ยอดเขาทิตลิส คือยอดเขาที่มีธารน้ำแข็งที่สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็น อย่างมาก โดยยอดเขามีความสูงถึง 3,238 เมตร มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี มีจุดเด่นคือ Titlis Rotair กระเช้า ไฟฟ้าหมุนได้ 360 องศา แห่งแรกของโลก ให้นักท่องเที่ยวชมวิวและถ่ายรูปได้เพลิดเพลิน บนยอดเขามีกิจกรรม Ice Flyer กระเช้านั่งห้อยขา ลานสกีและ Titlis Cliff สะพานแขวนที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในยุโรป
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (บนเขาทิตลิส)
เดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) (ใช้ เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) นำท่าน ถ่ายภาพกับ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) สัญลักษณ์สำคัญของลูเซิร์ นถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึก และเป็น เกียรติแก่เหล่าทหารหาญชาวสวิสซึ่งส่วน ใหญ่เป็นชาวลูเซิร์นมากกว่า 700 คนที่ ออกรบและเสียชีวิตในฝรั่งเศสเมื่อครั้งเกิด สงครามปฏิวัติยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ซึ่ง เป็นการเจาะเนื้อหินและแกะสลักขึ้นรูปเป็นประติมากรรมสิงโตตัวใหญ่สวยงามมากแม้จะมีใบหน้าโศกเศร้าดังที่ว่า ก็ตาม และอีกจุดหนึ่งที่น่าชมมากในย่านนี้ก็คือ สะพานไม้ชาเปล (Chapel bridge) สะพานที่ดูไม่เหมือนสะพาน และมีอายุเก่าแก่มากกว่า 600 ปี ที่ว่าไม่เหมือนสะพานก็เพราะแวบแรกอาจดูคล้ายอาคารกลางน้ำ แต่จริงๆ แล้ว สร้างขึ้นเพื่อใช้ข้ามไปมาระหว่างสองฝั่งแม่นํ้ารอยซ์
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก : โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่าน นั่งรถรางสู่ยอดเขาริกิ (Mt.Rigi) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ราชินีแห่งเทือกเขา เดินทาง โดยรถไฟฟันเฟือง ท่านจะได้ชมวิวแบบ พาโนราม่า ซึ่งได้ให้บริการมาตั้งแต่ปี 1871 เพื่อขึ้นพิชิตยอดเขาริกิซึ่งมี ความสูง 6,000 ฟุต หรือ 1,800 เมตร ด้วยรถไฟกลไกใช้ระบบไอน้ำ ซึ่งเป็นรถจักรที่เก่าแก่ที่สุดสร้างเมื่อปี 1858 แต่ได้รับบูรณะเป็นอย่างดี เพลิดเพลินกับการชื่นชมธรรมชาติตลอดการเดินทางจนถึงเขาริกิ เป็นจุดที่สามารถ มองเห็นทัศนียภาพอันงดงามที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์จะมองเห็นทิวทัศน์รอบด้าน เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ที่สุดของเทือกเขาแอลป์ และยังสามารถมองเห็นทะเลสาบจากยอดเขาริกิอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ นักท่องเที่ยวชื่นชอบ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางต่อไปยัง เมืองซุก (Zug) (ใช้ เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) เมืองเล็กๆ ที่มี อดีตมายาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 พาท่านชม ย่านเมืองเก่า ที่น่าสนใจมาก ทั้งแนวอาคาร บ้านเก่าแก่ที่สร้างกันตั้งแต่ยุคกลาง จัตุรัสกลาง เมือง และน้ำพุที่ตกแต่งด้วยรูปปั้นสวยๆ ตาม สไตล์ยุโรปก็มีให้ชมมากมายในเมืองซุกแห่งนี้ ไม่พลาดชมไฮไลท์ของเมืองคือ หอนาฬิกาสูง 25 เมตร ที่สร้างในสมัยศตวรรษที่ 13 แต่ยังคง ทำหน้าที่บอกทั้งเวลา วันที่ และข้างขึ้นข้างแรมได้อย่างถูกต้องไม่ผิดเพี้ยน ในย่านเมืองเก่านี้ยังมีโบสถ์สไตล์โกธิค และปราสาทเก่าแก่ให้ได้ชมกันด้วย
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก : โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ เมืองซูริค (Zurich) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ผ่านชม ศาลาว่าการเมืองซูริค ที่มีอายุเก่าแก่ กว่า 300 ปี และได้ถูกใช้เป็นที่ทำการรัฐบาลสาธารณรัฐซูริคจนถึงปี 1798 เป็นหนึ่งในอาคารเก่าแก่ของซูริค โบสถ์โกรสส์มุนสเตอร์ (Grossmünster) โบสถ์หอคอยคู่สูงระฟ้า และ โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumünster) ที่มีหน้าต่างกระจกสีอันสวยงามโดดเด่น ถ่ายภาพริมทะเลสาบซูริค (Lake Zurich) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองซู ริคเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่รวมถึง 1,829 ตารางกิโลเมตร แถมด้วยวิวของตัวเมืองซูริคริมทะเลสาบที่สวย ไม่เป็นรองที่ไหนที่ชวนให้อยากอยู่ชมวิวนี้ไปนานๆ เมืองชั้นนำของโลก เป็นหนึ่งในเมืองที่มีศูนย์กลางทางการเงิน ขนาดใหญ่ที่สุด และเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในสหภาพยุโรป
อิสระย่าน ถนนบานโฮฟสตราเซอร์ (Bahnhofstrasse) ถนนช้อปปิ้งที่มีสินค้าราคาแพงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร มีให้เลือกตั้งแต่เสื้อผ้าเครื่องประดับ สินค้าแบรนด์เนมอย่าง Louis Vuitton, Prada, Chanel ฯลฯ รวมถึงร้านของที่ระลึกต่างๆ
อิสระอาหารกลางวันและ เย็นตามอัธยาศัยเพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้งและชมเมืองได้อย่างเต็มอิ่ม
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ สนามบินซูริค
21.35 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินมัสกัต ประเทศโอมาน โดยสายการบิน โอมานแอร์(WY) เที่ยวบินที่ WY154 (บริการ อาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชม. 30 นาที)
06.50 น. เดินทางถึง สนามบินมัสกัต ประเทศโอมาน นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่อง เพื่อเดินทางสู่ ประเทศไทย (รอแวะ เปลี่ยนเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง)
08.55 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิประเทศไทย โดยสายการบิน โอมานแอร์(WY) เที่ยวบินที่ WY815 (บริการ อาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง 40 นาที)
18.00 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ
1. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเลื่อน, ยกเลิกการเดินทาง หรือปรับราคาค่าบริการขึ้น ในกรณีที่มีผู้เดินทางน้อยกว่า 15 ท่าน
2. เมื่อท่านตกลงชำระเงินมัดจำหรือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของบริษัทฯ หรือชำระโดยตรงกับทาง บริษัทฯ ทางบริษัทฯ จะขอถือว่าท่านรับทราบและยอมรับในเงื่อนไขต่างๆที่บริษัทฯได้ระบุไว้ทั้งหมด
3. เนื่องจากตั๋วเครื่องบินเป็นตั๋วกรุ๊ปราคาพิเศษ ในกรณีที่ท่านไม่สามารถเดินทางพร้อมคณะไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ตั๋ว เครื่องบินไม่สามารถ เลื่อนวันเดินทาง, เปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน หรือคืนเงินได้
4. หากสายการบินมีการปรับขึ้นของค่าภาษีสนามบิน หรือภาษีน้ำมัน ทางบริษัทจะเรียกเก็บเพิ่มตามจริง
5. หนังสือเดินทางต้องมีอายุเหลือการใช้งานมากกว่า 6 เดือน (นับจากวันเดินทางกลับ) และบริษัทฯ รับเฉพาะผู้มีจุดประสงค์ เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น
6. บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดทัวร์บางประการเมื่อเกิดเหตุสุดวิสัย อาทิเช่น เที่ยวบิน รายการ ท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
7. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, สายการบินยกเลิกเที่ยวบิน, การประท้วง, การนัดหยุดงาน, การก่อจลาจล, โรคระบาด, ภัยธรรมชาติ, อุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัท
8. บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหาย อันเนื่องมาจากความประมาทของท่าน, เกิดจากการโจรกรรม และ อุบัติเหตุจากความประมาทของนักท่องเที่ยวเอง
9. บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น และไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายต่างๆ ในกรณีที่ผู้เดินทางไม่ผ่านการพิจารณาในการตรวจ คนเข้าเมือง-ออกเมือง ไม่ว่าจะเป็นกองตรวจคนเข้าเมืองหรือกรมแรงงานของทุกประเทศในรายการท่องเที่ยว อัน เนื่องมาจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย การหลบหนีเข้าออกเมือง เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธ ในกรณีอื่นๆ
10. บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านใช้บริการของทางบริษัทฯไม่ครบ อาทิ ไม่เที่ยวบางรายการ, ไม่ทานอาหารบาง มื้อ เนื่องด้วยค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทางบริษัทฯได้มีการชำระค่าใช้จ่ายให้ตัวแทนต่างประเทศแบบเหมาขาดก่อนออกเดินทางแล้ว
11. รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สำรองโรงแรมที่พักในต่างประเทศ เรียบร้อยแล้ว โดยโรงแรมจัดในระดับใกล้เคียงกัน ซึ่งอาจจะปรับเปลี่ยนตามที่ระบุในโปรแกรม
12. การจัดการเรื่องห้องพัก เป็นสิทธิ์ของโรงแรมในการจัดห้องให้กับกรุ๊ปที่เข้าพัก โดยมีห้องพักสำหรับผู้สูบบุหรี่/ปลอดบุหรี่ โดยอาจจะขอเปลี่ยนห้องได้ตามความประสงค์ของผู้ที่พัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมให้บริการของโรงแรม ไม่สามารถยืนยัน ได้
13. กรณีมีผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ นั่งรถเข็น (WHEELCHAIR), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกในการ เดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัว ของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด (กรุณาแจ้งให้ทาง บริษัทฯ ทราบล่วงหน้าก่อนทำการจอง)
14. ประกันการเดินทาง บริษัทฯ ได้จัดทำแผนประกันภัยการเดินทางสำหรับผู้เดินทางไปต่างประเทศ แบบ Group tour โดย แผนประกันจะครอบคลุมอุบัติเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างช่วงที่เดินทาง และลูกค้าต้องทำการรักษาในโรงพยาบาลที่ ประกันครอบคลุมการรักษาเท่านั้น (เข้ารับรักษาในรูปแบบอื่นๆ ประกันจะไม่ครอบคลุม) (เงื่อนไขตามกรมธรรม์ สอบถามได้กับเจ้าหน้าที่บริษัท)
15. ค่าประกันสุขภาพไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ ท่านสามารถซื้อเพิ่มเติมเองได้
16. ทางบริษัทฯ ยึดตามประกาศของทางรัฐฯและประเทศที่เดินทางเป็นหลัก หากมีการเปลี่ยนแปลงหรือประกาศใดๆ ทาง บริษัทฯจะคำนึงถึงความปลอดภัยและประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ
17. มัคคุเทศก์ พนักงาน หรือตัวแทนของทางบริษัท ไม่มีอำนาจในการให้คำสัญญาใดๆ แทนบริษัท เว้นแต่ มีเอกสารลงนาม โดยผู้มีอำนาจของบริษัทกำกับเท่านั้น
18. หากลูกค้าต้องจองตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ รถโดยสารภายในประเทศ หรือรถไฟ กรุณาแจ้งและสอบถามกับ เจ้าหน้าที่ของบริษัททราบก่อนจองทุกครั้ง ไม่เช่นนั้นบริษัทจะไม่รับผิดชอบทุกกรณีหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
19. ภาพที่ใช้ในโปรแกรมเป็นภาพที่ใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
20. เอกสารต่างๆ ที่ใช้ในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป ทางสถานทูตเป็นผู้กำหนดออกมา มิใช่บริษัททัวร์เป็นผู้กำหนด ท่านที่มีความประสงค์จะยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง และครบถ้วนตามที่สถานทูต ต้องการ เพราะจะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของท่าน บริษัททัวร์เป็นแต่เพียงตัวกลาง และอำนวยความสะดวกในการยื่น วีซ่าเท่านั้น มิได้เป็นผู้พิจารณาวีซ่าให้กับท่าน การผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณาขึ้นอยู่กับสถานทูต
6/162 ถนน วิภาวดีรังสิต แขวง สนามบิน เขต ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210