วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | |
---|---|---|---|---|
05 ธ.ค. 67 - 14 ธ.ค. 67 | 155,900 บาท | 39,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
27 ธ.ค. 67 - 05 ม.ค. 68 | 165,900 บาท | 39,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
30 ม.ค. 68 - 08 ก.พ. 68 | 155,900 บาท | 39,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
10 ก.พ. 68 - 19 ก.พ. 68 | 155,900 บาท | 39,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
14 มี.ค. 68 - 23 มี.ค. 68 | 155,900 บาท | 39,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
21 มี.ค. 68 - 30 มี.ค. 68 | 155,900 บาท | 39,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
04 เม.ย. 68 - 13 เม.ย. 68 | 159,900 บาท | 45,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
11 เม.ย. 68 - 20 เม.ย. 68 | 169,900 บาท | 45,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
12 เม.ย. 68 - 21 เม.ย. 68 | 165,900 บาท | 45,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
30 เม.ย. 68 - 09 พ.ค. 68 | 159,900 บาท | 45,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
09 พ.ค. 68 - 18 พ.ค. 68 | 159,900 บาท | 45,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
30 พ.ค. 68 - 08 มิ.ย. 68 | 159,900 บาท | 45,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
18.15 น. สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4เคาร์เตอร์สายการบินกาต้าร์แอร์เวย์ (เคาเตอร์ Q) เจ้าหน้าที่คอยดูแลเช็คสัมภาระและบัตรที่นั่งบนเครื่อง
21.15 น. ออกเดินทางสู่กรุงโดฮา โดยสายการบินกาต้าร์แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR833
00.05 น. เดินทางถึงกรุงโดฮา ประเทศกาต้าร์ (แวะพักเปลี่ยนเครื่อง)
01.25 น. ออกเดินทางสู่มิลาน โดยสายการบินกาต้าร์แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR123
06.40 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติมิลาน ประเทศอิตาลี หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองมิลาน(Milano) นำท่านชมบริเวณลาน “ปราสาทสฟอร์เซสโก้” ปราสาทสวยงามหลังนี้ได้เคยเป็นป้อมปราการของพวกตระกูลวิสคอนติ ต่อมาเป็นที่พำนักของผู้นำเผด็จการในช่วงศตวรรษที่ 15 คือ ตระกูล สฟอร์ซา มีเวลาให้ท่านได้ถ่ายภาพกับมุมสวยๆ ของน้ำพุที่โพยพุ่งบริเวณด้านหน้าปราสาทสฟอร์เซสโก้ จากนั้นชม “มหาวิหารแห่งมิลาน หรือดูโอโม” สัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมือง อันมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาวในศิลปะแบบโกธิค ใช้เวลาสร้างนานกว่า 500 ปี ปัจจุบันเป็น “โบสถ์แคธอลิกที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก” ลานด้านหน้าเป็นที่ตั้งของพระราชานุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์เอ็มมานูเอลที่ 2 ทรงม้า รายล้อมด้วยอาคารที่เก่าแก่คลาสสิคและช้อปปิ้งมอลล์ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก“แกลเลอเรีย วิคเตอร์เอ็มมานูเอลที่ 2” ที่ใช้เวลาก่อสร้างถึง 12 ปี เป็นอาคารหลังคากระจกโครงเหล็กพื้นโมเสกลวดลายงดงามมาก
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ได้เวลาพอสมควรเดินทางสู่เมือง ‘เวโรนา’ เดินเล่นชมเมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปถึงสมัยโรมัน
เวโรนาก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล เวโรนาได้อนุรักษ์อนุสรณ์สถานจำนวนมากตั้งแต่สมัยโบราณ ยุคกลาง และยุคเรอเนสซองส์ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลีสำหรับคู่รัก โดยตั้งอยู่ระหว่างเมืองมิลานและเวนิสในเขตเวเนโตทางตอนเหนือของอิตาลี เวโรนาเป็นที่รู้จักในฐานะฉากในวรรณกรรม "โรมิโอและจูเลียต" ของวิลเลียม เชคสเปียร์ เยี่ยมชมบ้านจูเลียต และถ่ายภาพกับ ‘โคลอสเซียมขนาดเล็ก’ และจัตุรัสสุดโรแมนติกที่อยู่ใจกลางเมือง นำคณะเดินทางขึ้นสู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลีไปยัง “ เมืองเวนิส เมสเตร้” (Venice-Mestre) ราชินีแห่งทะเล เอเดียตริกเมืองหลวงของแคว้น เวเนโต
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง เมนูพิเศษ!!! สปาเกตตี้ล๊อบสเตอร์ (Spaghetti Lobster) / จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
พักที่: Hotel NH Venezia Laguna Palace / หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางสู่ท่ารเรือตรอนเชสโต้ เพื่อลงเรือส่วนตัวเข้าสู่ “เกาะเวนิส” เกาะอันแสนโรแมนติกซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของคู่รักจากทั่วโลก เมืองเวนิสได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก (Queen of the Adriatic), เมืองแห่งสายน้ำ (City of Water), เมืองแห่งสะพาน (City of Bridges), และ เมืองแห่งแสงสว่าง (The City of Light) เรือนำท่านเดินทางเข้าสู่“เกาะซาน มาร์โค ” ศูนย์กลางของเมืองเวนิส นำคณะเดินทางเข้าสู่บริเวณ “จตุรัสซานมาโค” ระหว่างการเดินทางชม อนุสาวรีย์ของพระเจ้าวิคเตอร์เอมานูเอลที่ 2 ถ่ายภาพคู่กับ“ สะพานถอนหายใจ ” สะพานแห่งสัญลักษณ์ที่เชื่อมต่อกับพระราชวังดอร์จ ชมความสวยงามของจตุรัสด้านหน้าพระราชวังดอร์จ อันเป็นที่ประทับของเจ้าเมืองเวนิสในยุคที่ยังเป็นรัฐอิสระอีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของการปกครองแคว้นในยุคสมัยนั้น ชมรอบบริเวณ“โบสถ์เซนต์มาร์ค” ซึ่งเป็นโบสถ์แบบไบเซ็นไทน์ที่ใหญ่ที่สุด ในยุโรปตะวันตก อิสระเลือกช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังนานาชนิด อาทิ Gucci ,Louis Vuitton ,Prada ,Bally ,Chanel หรือ“ เครื่องแก้วมูราโน่ ” สินค้าพื้นเมืองอันเลื่องชื่อ อิสระให้ท่านเดินเที่ยวชมงานก่อสร้างที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นอัจฉริยะด้านสถาปัตยกรรมที่“สะพานเรียลอัลโต้”
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ “เมืองฟลอเรนซ์” (Florence) เป็นเมืองต้นแบบของศิลปะแบบเรอเนสซองส์ ซึ่งเป็นเมืองที่มีความเจริญสูงสุดในช่วงศตวรรษที่ 13-16 นำท่านเดินเที่ยวชมเขตเมืองเก่า ชม “จัตุรัสเพียซซ่าซินยอเรตตา” ชมสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของเมืองที่ “มหาวิหารซานตา มาเรีย เดลฟิออเร” เป็นวิหารที่มียอดโดมขนาดใหญ่สัญลักษณ์แห่งเมืองฟลอเรนซ์ จากนั้นออกเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองชม “โบสถ์ซันตาโคเช่” โบสถ์ขนาดใหญ่ซึ่งใช้เป็นสถานที่ฝังศพของศิลปินชื่อก้องโลก “ไมเคิลแองเจลโล และกาลิเลโอ” และศิลปินชื่อดังของเมือง ชม “จัตุรัสเดลลาซิญญอเรีย” (Piazza Della Signoria) ที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างมาก เนื่องจากเป็นที่ตั้งของรูปปั้นเดวิด อันเป็นผลงานที่มีชื่อเสียงของ ไมเคิล แองเจโล่
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ...ฟิออเรนติน่าสเต๊ก รสเลิศพร้อมไวน์ทัสคานี
พักที่: Hotel NH Pisa / หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
ได้เวลาสมควรนำท่านออกเดินทางสู่เมืองลา สเปเซีย (La Spezia) / นำท่านนั่งรถไฟสู่ ชิงเกว่ แตร์เร (Cinque Terre) หมู่บ้านเล็กๆ ทั้งห้า ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งริเวียร่า ของอิตาลี มีความหมายว่า “ห้าดินแดน” (FIVE LANDS) ประกอบด้วย หมู่บ้านห้าแห่ง ได้แก่ ริโอมัจจอเร, มานาโรลา, คอร์นิเกลีย, แวร์นาซซา และ มอนเตรอสโซ อัล มาเร โดยทั้งห้าหมู่บ้านนี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฯ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้อีกด้วย แวะชมความงามของหมู่บ้าน ริโอแมกจิโอเร (RIOMAGGIORE) จากนั้นนั่งรถไฟสู่หมู่บ้าน ‘แวร์นาซซา’ (Vernazza) หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่มีลักษณะเฉพาะ แวร์นาซซาคือที่เดียวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นหนึ่งใน "หมู่บ้านที่สวยที่สุดในอิตาลี" (I borghi piú belli d'Italia) อย่างเป็นทางการ
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชมหมู่บ้านหมู่บ้าน “ริโอแมกจิโอเร”( Riomaggiore) ที่มีเสน่ห์ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีขั้นบันไดสูงเหนือชายฝั่งลิกูเรียน เป็นที่รู้จักจากบ้านหินสีสันสดใสที่เรียงซ้อนกัน และท่าเรือที่เต็มไปด้วยเรือประมงแบบดั้งเดิม
นำท่านนั่งรถไฟสู่ “หมู่บ้านมานาโรลา” (Manarola) เป็นหมู่บ้านที่เล็กเป็นอันดับสอง และเก่าแก่ที่สุดในบรรดาทั้ง 5 หมู่บ้านแถว ชิงเกวแตร์เร(Cinque Terre) โดยหมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ริมหน้าผาสูงชันบนฝั่งริเวียล่า อาคารตึก ถูกทาด้วยสีสันสดใส หลากหลายสี จึงกลายเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้มาเยือน มานาโรลา เสมือนหนึ่งบ้านสีลูกกวาด ส่วนที่พัก ก็จะอยู่ ในตัวตึกที่ก่อตั่งริม หน้าผา ภายในจะมีขั้นบันไดลาดชันเดินขึ้นห้องพัก ซึ่งจะเป็นห้องเล็กๆ มีพื้นที่ใช้สอย พอพักผ่อนได้ และไม่เหมาะกับ กระเป๋าล้อลากใบใหญ่ หากจะมาค้างคืนที่ แห่งนี้ แนะนำให้แบ่งผ้า มาเฉพาะที่ใช้ เพราะบันได สูงชัน / สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมเมืองปิซ่า
ค่ำบริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: NH Hotel Pisa / PLAZA TOWER HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านชมความมมหัศจรรย์ของ “หอเอนแห่งเมืองปิซ่า” 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง สำหรับหอเอนปิซ่านี้ ภายในมีเสาหินอ่อนทีสลักลวดลายด้วยฝีมือจิตรกรชื่อดังแห่งยุคได้สลักลวดลายไว้สวยงามมาก ส่วนสาเหตุที่เอียง นั้นเกิดขึ้นหลังจากเมื่อสร้างเสร็จแล้ว ฐานได้ทรุดไปข้างหนึ่ง เมื่อวัดดูปรากฏว่าเอียงออกจากแนวดิ่งของฐานถึง 14 ฟุต แต่ก็ยังไม่ล้ม ยังคงเอียงอยู่เช่นทุกวันนี้
ได้เวลาสมควรนำท่านออกเดินทางสู่
นำท่านออกเดินทางสู่เมืองทิโวลี่ (Tivoli) ดินแดนที่เป็นส่วนหนึ่งของแคว้นลาซิโอ (Lazio)
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหารเดินทางสู่สถานีรถไฟเมืองฟลอเรนซ์ จากนั้นทำท่านนั่งรถไฟด่วน (ItaliaRail) ไปยังเมืองเนเปิลส์ ในระยะทาง 482 กม. ใช้เวลาเดินทางภายในเวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง สะดวก,ปลอดภัยและประหยัดเวลามาก(ปกติต้องนั่งรถทั้งวันจากฟลอเรนซ์ไปเมืองเนเปิ้ลส์ ส่วนสัมภาระและกระเป๋าใบใหญ่จะไปกับรถโค้ชส่งถึงโรงแรมที่พัก)
ผ่านชมทิวทัศน์อันน่าทึ่ง ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญสำหรับการเดินทางครั้งนี้ การเดินทางระยะสั้นจากฟลอเรนซ์ไปยังเนเปิลส์ สัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุดของอิตาลี โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกรถไฟฟลอเรนซ์ไปเนเปิลส์ เช่น เครื่องปรับอากาศและปลั๊กไฟไว้ในที่นั่งเพื่อความสะดวก และตู้เสบียงและคาเฟ่มีให้บริการสำหรับผู้โดยสารทุกคน
นำท่านเดินเล่น ชมเมืองเนเปิลส์ เมืองแห่งประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ เมืองเนเปิลส์ (Naples) หรือที่นิยมเรียกเป็นภาษาอิตาลีว่า เมืองนาโปลี (Napoli) ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งด้านตะวันตกของอิตาลี เป็นเมืองที่ร่ำรวยทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและยังเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญในคาบสมุทรอิตาลี มาตลอด 2,800 ปีนับแต่ก่อตั้งเมืองขึ้นมา ด้วยเหตุนี้เมืองเนเปิลส์ จึงถือว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเฉพาะบริเวณใจกลางของเมืองเนเปิลส์ยังเป็นศูนย์กลางเมืองทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก (Unesco) ให้เป็นมรดกโลก ในปี 1995 เเละที่สำคัญก็คือที่เมืองเเห่งนี้เป็นเมืองแรกในโลกที่เริ่มมีการทำพิซซ่า จึงนับได้ว่าเป็นเมืองต้นตำหรับของพิซซ่าอย่างเเท้จริง
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
พักที่: Hotel NH Napoli / Palazzo Caracciolo / Hotel Royal Continental / หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ท่าเรือเฟอร์รี่ ออกเดินทางสู่ “เกาะคาปรี” (Capri Island ) / นำท่านล่องเรือชมทิวทัศน์อันสวยงามของเกาะคาปรี ท่ามกลางท้องฟ้าสีคราม น้ำทะเลสีน้ำเงินเข้ม นำท่านชมความงามของ “ถ้ำบลูกรอตโต้” (BLUE GROTTO) ถ้ำนี้ถูกค้นพบเมื่อปี 1826 มีขนาดกว้าง 45 เมตรและยาว 54 เมตร สูง 15 เมตร
ทางเข้าถ้ำสูงจากระดับน้ำทะเลเพียงเมตรเศษๆ (ในกรณีที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยหรือระดับน้ำสูงเกินอาจงดรายการชมถ้ำบลูกอตโต้ เนื่องจากไม่ปลอดภัย) นำท่านนั่งเรือเข้าสู่บริเวณ “มาริน่า แกรนด์เด” (Marina Grande) ท่าเรือที่สวยงามของ “เกาะคาปรี” จากนั้นนำท่านโดยสารรถราง (FUNICULAR) สู่ย่านกลางเมืองของเกาะคาปรี(จัตุรัสอูมแบร์โต) จัตุรัสแห่งนี้ เป็นศูนย์กลางของเมืองที่คึกคัก ผู้คนจะนิยมมาเดินรอบๆ จัตุรัสที่เต็มไปด้วย ร้านอาหาร ร้านค้า ร้านแฟชั่นที่มีชื่อเสียง มีหอนาฬิกาที่ตั้งเด่นใจกลางจัตุรัส และยังมีจุดชมวิวเมืองที่ใกล้กัน
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคารถ้องถิ่น
นำท่านเดินชมเกาะคาปรี สถานที่ตากอากาศของชนชั้นสูงมาตั้งแต่สมัยโรมันเรืองอำนาจ(จักรพรรดิออกุสตุส (Augustus) ผู้ยิ่งใหญ่) และยังคงไว้ซึ่งมนต์เสน่ห์แห่งความงามมาจนถึงทุกวันนี้ บรรดากวีและนักเขียนชื่อดังต่างก็บอกในงานเขียนเป็นเสียงเดียวกันว่า “ที่คาปรีสวรรค์อยู่ใกล้ๆ เพียงแค่ปรายตามอง” นำท่านเดินสู่จุดชมวิว ณ “สวนออกัสตัส” (Augustus Garden) สวนแห่งนี้ เป็นสวนที่เต็มไปด้วยพืชพรรณหายาก และมีความสวยงาม ร่มรื่น ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เพื่อถวายแก่จักรพรรดิแห่งโรมัน สวนแห่งนี้ประกอบไปด้วนระเบียงที่มองเห็นทะเล มีไม้ประดับและดอกไม้นานาชนิดให้เยี่ยมชมมากมาย และยังได้เห็นวิวแบบพาโนรามา 180 องศาของเกาะคาปรีอีกด้วย มีเวลาอิสระให้ทุกท่านเก็บภาพความประทับใจอย่างเต็มที่ ท่านอาจเลือกนั่งจิบกาแฟ ทานไอศกรีม(Gelato) หรือเครื่องดื่มท้องถิ่น “เลมอนเชลโล่”(Lemoncello) ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเกาะคาปรี / ได้เวลาสมควรนำทุกท่าน เช็คอินเข้าสู่โรงแรมที่พัก มีเวลาให้ท่านชื่นชมกับบรรยากาศที่ทำให้คาปรีมีเสน่ห์เป็นที่หลงใหลของนักท่องเที่ยว อดีตเคยเป็นที่ประทับตากอากาศของจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมัน ที่โปรดให้เป็นวิมานฉิมพลีริมฝั่งทะเล พิเศษสุด...จากนั้นนำท่านเดินสู่สถานีรถบัสท้องถิ่น เดินทางสู่ย่าน “อนาคาปรี”(Anacapri) นำท่านโดยสารกระเช้าสู่จุดชมวิว “มอนเต โซลาโร”( Monte Solaro
) ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดของ Capri เนื่องจากมอนเต โซลาโร Monte Solaro เป็นภูเขาที่มีความสูง 589 เมตร และเป็นจุดที่สูงที่สุดของเกาะคาปรี มีเวลาให้ทุกท่านเก็บภาพความประทับใจชื่นชมกับบรรยากาศที่ทำให้คาปรีมีเสน่ห์เป็นที่หลงใหลของนักท่องเที่ยว สมกับที่ในอดีตเคยเป็นที่ประทับตากอากาศของจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมัน ที่โปรดให้เป็นวิมานฉิมพลีริมฝั่งทะเล ชมทิวทัศน์อันงดงามของ ยอดเขาอนาคาปรี ชมบ้านเรือนและบ้านพักตากอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนให้ท่านได้เดินเล่นผ่อนคลายกับธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม / นำท่านเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่กลับสู่ท่าเรือเนเปิ้ล / เข้าสู่โรงแรมที่พักเมืองเนเปิ้ล
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมที่พัก
พักที่: Hotel NH Napoli / Palazzo Caracciolo / Hotel Royal Continental / หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านชมเมือง เนเปิลส์(Naples) เมืองแห่งประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ เมืองเนเปิลส์ (Naples) หรือที่นิยมเรียกเป็นภาษาอิตาลีว่า เมืองนาโปลี (Napoli) ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งด้านตะวันตกของอิตาลี เป็นเมืองที่ร่ำรวยทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและยังเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญในคาบสมุทรอิตาลี มาตลอด 2,800 ปีนับแต่ก่อตั้งเมืองขึ้นมา ด้วยเหตุนี้เมืองเนเปิลส์ จึงถือว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เมืองเนเปิลส์ยังเป็นศูนย์กลางเมืองทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก (Unesco) ให้เป็นมรดกโลก ในปี 1995 เเละที่สำคัญก็คือที่เมืองเเห่งนี้เป็นเมืองแรกในโลกที่เริ่มมีการทำพิซซ่า จึงนับได้ว่าเป็นเมืองต้นตำหรับของพิซซ่าอย่างเเท้จริง นำท่านออกเดินทางสู่เมืองซอร์เรนโต้(Sorrento) นำท่านชม จัตุรัสทาซโซ่ (Piazza Tasso) ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมือง เป็นจัตุรัสที่เต็มไปด้วยสีสันของร้านรวงที่ตั้งเรียงรายตลอดสองข้างทางของถนนสายที่ได้ชื่อว่าเป็นช้อปปิ้งอันมีชื่อเสียงของเมืองซอร์เรนโต้ พร้อมทั้งยังได้ชมวิถีชีวิตของผู้คนพื้นเมืองที่นิยมมานั่งจิบกาแฟ หรือมานั่งพูดคุยสังสรรค์กันในร้านอาหาร นำท่านชมบริเวณโดยรอบจัตุรัสทาซโซ่ ที่เต็มไปด้วยโบสถ์ วิหาร ที่มีความโดดเด่นงดงามเป็นเอกลักษณ์ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค มีเวลาให้ทุกท่านเดินเล่นชมความงดงามของอ่าวซอร์เรนโต้ จากบริเวณสวนวิลล่า โคมูนาเล่ (Villa Comunale Park, Sorrento) เป็นสวนสไตล์อิตาเลียนใต้ที่สวยงามเป็นจุดชมวิว ภูเขาไฟวิสุเวียส เป็นจุดยอดนิยมสำหรับนั่งดูพระอาทิตย์ตกดิน มีม้านั่ง, โรงละครโอเปร่า สวนสาธารณะแห่งนี้ก็เหมาะสำหรับทุกวัยจริงๆ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่คุณต้องไปเยี่ยมชมเมื่ออยู่ในซอร์เรนโต้
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพิซซ่ารสเลิศ
นำท่านเดินทางสู่เมืองเก่าปอมเปอี นำท่านเข้าชม “เมืองโบราณปอมเปอี” (Pompei) นำท่านชมเมืองโบราณ 2,000 ปี ที่ถูกทำลายโดยลาวาของภูเขาไฟ วิโซเวียส ซึ่งภูเขาไฟลูกนี้ระเบิดเอาดินโคลนเถ้าถ่าน และหินละลายทับถมจมลงไปในดินในชั่วเวลาไม่กี่นาทีเมื่อ พ.ศ.662 ประชาชนนับหมื่นต้องถูกฝังทั้งเป็นตายด้วยความทุกข์ทรมาน โดยไม่มีโอกาสหนีรอดออกมาได้เลย และปอมเปอี ก็ถูกลืมไปจากความทรงจำของชาวโลกต่อมาได้มีการฟื้นฟูศึกษาประวัติศาสตร์โบราณชื่อปอมเปอีจึงถูกค้นพบแต่ไม่มีใครทราบว่าอยู่ที่ไหน จนกระทั่ง พ.ศ.2291 ได้พบร่องรอยของซากเมือง เมื่อรื้อดินที่ทับถมออกมาหมดแล้วก็พบซากเมืองที่ใหญ่โต และสร้างด้วยหินอย่างแข็งแรง บางแห่งพบ “ ซากชาวปอมเปเอียน และสัตว์เลี้ยงของเขาที่ตายกลายเป็นหินยังคงสภาพเดิมทุกประการ ” แต่ทว่าภาพนั้นจะเห็นลักษณะของความหวาดกลัวต่อความตายได้เป็นอย่างดีบางคนนั่งเอามือปิดหน้าตายบางคนนั่งซบกับกำแพงบ้านตายก็มี ปอมเปอีจึงได้ชื่อว่า “ซากเมืองแห่งความตาย” จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่กรุงโรม เมืองหลวงอันยิ่งใหญ่ของประเทศอิตาลี ผ่านชมเมืองต่างๆระหว่างเส้นทางที่เต็มไปด้วยพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนที่สวยงาม นำท่านออกเดินทางสู่กรุงโรม
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Sheraton Roma Hotel / H10 Hotel Roma /หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านชมกรุงโรม เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลาซีโอและประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไทเบอร์และตั้งอยู่บนเนินเขาเจ็ดลูก เนินเขาพาลาไทน์, เนินเขาอาเวนไทน์, เนินเขาคาปิโตลีน, เนินเขาเคเลียน, เนินเขาเอสควิลีน, เนินเขาควิรินัล และเนินเขาวิมินัล ต่อมาได้กลายเป็นศูนย์กลางอำนาจของจักรวรรดิโรมันอันยิ่งใหญ่ อาคารโบราณและมากมาย ซากปรักหักพังของ Forum Romanum และโคลอสเซียมจะทำให้ท่านประทับใจและ วิหารแพนธีออนซึ่งปัจจุบันกลายเป็นโบสถ์ มีหลังคาเปิดทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ และเป็นหนึ่งในอาคารที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดตั้งแต่สมัยโรมัน โรมถูกเรียกว่า "เมืองนิรันดร์" โดยชาวโรมันโบราณเพราะพวกเขาเชื่อว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในส่วนอื่นๆ ของโลก เมืองโรมจะยังคงตั้งอยู่ตลอดไป นำท่านเข้าชมภายในของ “มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์” ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในนครรัฐวาติกัน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์ของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกที่มีขนาด “ ใหญ่ที่สุดในโลก ” ได้รับการออกแบบโดย “ ไมเคิลแองเจลโล ” นำท่านเข้าสู่ภายในมหาวิหารซึ่งประดับประดาไปด้วยงานศิลปะชิ้นเอกมากมาย อาทิเช่น “ ปิเอต้า ” (The Pieta) รูปแกะสลักหินอ่อนแม่พระมารีอุ้มพระศพของพระเยซูเจ้าไว้บนตัก
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชมเมืองเก่ากรุงโรมระหว่างเส้นทาง ท่านจะสามารถชมความงดงามสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ของกรุงโรม รถโค้ชจะนำท่านผ่านชมสถานที่สำคัญต่างๆ อาทิ “จัตุรัสเวเนเซีย” Piazza Venezia จตุรัสที่ยิ่งใหญ่ใจกลางกรุงโรม ผ่านชมระเบียงปาลาสโซ สถานที่ใช้กล่าวสุนทรพจน์ของมุสโสลินีในโอกาสต่างๆ “อนุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ลที่ 2” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพระบิดาของชาว อิตาลี“ประตูชัยคอนสแตนติน” สัญลักษณ์แห่งชัยชนะและที่มาของ “ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม” จากนั้นชมร่องรอยของศูนย์กลางแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ “โรมันฟอรั่ม” นำท่านเข้าชมภายใน “สนามกีฬาโคลอสเซียม” (Colosseum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างเกือบสมบูรณ์ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม โดยนับเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างขึ้นมาในสมัยอาณาจักรโรมัน ระหว่างทาง ท่านจะสามารถชมความงดงามสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ของกรุงโรม (*** หมายเหตุ ในกรณีที่ไม่สามารถเข้าชมโคลอสเซียมในแบบตั๋วกรุ๊ปได้ หรือไม่มีคิวกรุ๊ป ลูกค้าต้องเปลี่ยนมาเป็นตั๋วเดี่ยว ซึ่งทุกท่านต้องต่อแถวรอคิวเข้าชมในแถวปกติ ซึ่งอาจจะทำให้ต้องใช้เวลานานในการรอคิว ฉะนั้นหากไม่สามารถรอคิวเข้าชมได้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนรายการโดยนำท่านเข้าไปชมที่ Roman Forum (โรมันฟอรั่ม แทนในกรณีที่ไม่สามารถเข้าชมโคลอสเซียมได้ในเวลาปกติ
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Sheraton Roma Hotel / H10 Hotel Roma /หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านเดินเข้าชมความสวยงามของ “น้ำพุเทรวี่” น้ำพุเทรวี่นี้ถือเป็นผลงานชิ้นเอกที่สร้างความประทับให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ส่วนกลางของน้ำพุนั้นมีรูปปั้นของเทพเจ้าเนปจูนขี่รถม้าติดปีกแสดงถึงความมีสุขภาพที่แข็งแรงและความอุดมสมบูรณ์ของอาณาจักร จากนั้นเดินเข้าสู่เขตเมืองเก่าเพื่อเข้าชม ความมหัศจรรย์ของ “วิหารแพนธีออน” สถาปัตยกรรมจากยุคโรมันที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศอิตาลี มีอายุเก่าแก่ประมาณ 2,000 กว่าปี
วิหารแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 27 ปีก่อนคริสตกาล จุดเด่นที่น่าสนใจของวิหารแพนธีออน คือ การออกแบบ “ โดม ” ด้านบนของอาคารทำได้อย่างน่าอัศจรรย์
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ “ย่านบันไดสเปน”(Spanish Steps) สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของกรุงโรม สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของกรุงโรม เป็นสถานที่นัดพบของหนุ่มสาววัยรุ่นของอิตาลีซึ่งในเขตบริเวณนี้เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโรมันที่สวยงาม ให้ท่านได้ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกหรืออิสระเลือกช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังนานาชนิด อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Prada, Bally, Chanel ฯลฯ ได้เวลาสมควรออกเดินทางสู่สนามบินฟูมิชิโน่
22.40 เหิรฟ้ากลับสู่กรุงโดฮา โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR114
05.10 ถึงสนามบินกรุงโดฮา รอเปลี่ยนเครื่อง ประมาณ 2 ชั่วโมง
08.30 เหิรฟ้ากลับสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR832
19.00 เดินทางถึงกรุงเทพฯ...โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ – มิลาน // กรุงโรม – กรุงเทพฯ (หรือสลับเมืองลงก่อน-หลัง)
ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามระบุไว้ในรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ช.ม./วัน
โรงแรมที่พักตามระบุหรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน โรงแรมส่วนใหญ่ในสวิตเซอร์แลนด์จะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำและราคาโรงแรมจะปรับขึ้น 3-4 เท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับงานเทศกาลเทรดแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลที่ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนย้ายเมือง โดยคำนึงถึงความเหมาะสมเป็นหลัก
ค่าอาหารที่ระบุในรายการ ให้ท่านได้เลิศรสกับอาหารท้องถิ่นในแต่ละประเทศ
ค่าบริการนำทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยวให้ความรู้ และคอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
ค่าประกันสุขภาพและการเกิดอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
ค่าธรรมเนียมในการยื่นวีซ่ายุโรปหรือกลุ่มเชงเก้นวีซ่า และค่าธรรมเนียมวีซ่า ทางสถานทูตไม่คืนให้ท่านไม่ว่าท่านจะผ่านการพิจารณาหรือไม่ก็ตาม
ค่าทิปพนักงานขับรถและบริกรตลอดการเดินทาง
น้ำดื่มบนรถโค้ชบริการตลอดการเดินทาง
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %
ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าโทรศัพท์ , ค่าซักรีด , ค่าเครื่องดื่มและอาหารนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ
ค่าผกผันของภาษีน้ำมันที่ทางสายการบินแจ้งเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
ทิปหัวหน้าทัวร์ วันละ 100 บาท ต่อท่านต่อวัน ***หากท่านประทับใจในการบริการ***
ค่าธรรมเนียมการเลื่อนตั๋วขากลับ(กรณีอยู่ต่อ)
หมายเหตุ
บริษัทฯ จะทำการยื่นวีซ่าของท่านก็ต่อเมื่อ ได้รับคิวการตอบรับจากทางสถานทูต เนื่องจากบริษัทฯ จะต้องใช้เอกสารต่างๆที่สำคัญในการยื่นวีซ่า อาทิ ตั๋วเครี่องบิน ห้องพักที่คอนเฟิร์มมาจากทางยุโรป ประกันการเดินทาง ฯลฯ
หากในช่วงที่ท่านเดินทางคิววีซ่ากรุ๊ปในการยื่นวีซ่าเต็ม ทางบริษัทต้องขอสงวนสิทธิ์ในการยื่นวีซ่าเดี่ยว ซึ่งทางท่านจะต้องเดินทางมายื่นวีซ่าด้วยตัวเอง ตามวัน และเวลานัดหมายจากทางสถานทูต โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยดูแล และอำนวยความสะดวก
เอกสารต่างๆที่ใช้ในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป ทางสถานทูตเป็นผู้กำหนดออกมา มิใช่บริษัททัวร์เป็นผู้กำหนด ท่านที่มีความประสงค์จะยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง และครบถ้วนตามที่สถานทูตต้องการ เพราะจะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของท่าน บริษัททัวร์เป็นแต่เพียงตัวกลาง และอำนวยความสะดวกในการยื่นวีซ่าเท่านั้น มิได้เป็นผู้พิจารณาว่าวีซ่าให้กับทางท่าน
กรณีวีซ่าที่ท่านยื่นไม่ผ่านการพิจารณา และคณะสามารถออกเดินทางได้ ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้
- ค่าธรรมเนียมการยื่นวีซ่าและค่าดำเนินการ ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้นแม้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณา
- ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน หรือตั๋วเครื่องบินที่ออกมาจริง ณ วันยื่นวีซ่า ซึ่งตั๋วเป็นเอกสารที่สำคัญในการยื่นวีซ่า หากท่านไม่ผ่านการพิจารณา ตั๋วเครื่องบินถ้าออกตั๋วมาแล้วจะต้องทำการ REFUND โดยจะมีค่าธรรมเนียมที่ท่านต้องถูกหักบางส่วน และส่วนที่เหลือจะคืนให้ท่านภายใน 45-60 วัน (ตามกฎของแต่ละสายการบิน) ถ้ายังไม่ออกตั๋วท่านจะเสียแต่ค่ามัดจำตั๋วตามจริงเท่านั้น
- ค่าห้องพักในทวีปยุโรป ถ้าคณะออกเดินทางได้ และท่านไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่า ตามกฎท่านจะต้องโดนค่ามัดจำห้องใน 2 คืนแรกของการเดินทางหากท่านไม่ปรากฏตัวตามวันที่เข้าพัก ทางโรงแรมจะต้องยึดค่าห้อง 100% ในทันที ทางบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ และมีเอกสารชี้แจงให้ท่านเข้าใจ
หากท่านผ่านการพิจารณาวีซ่า แล้วยกเลิกการเดินทางทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยึดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100%
ทางบริษัทเริ่มต้น และจบ การบริการ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรณีท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ และจะสำรองตั๋วเครื่องบิน หรือพาหนะอย่างหนึ่งอย่างใดที่ใช้ในการเดินทางมาสนามบิน ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากโปรแกรมการเดินทางของบริษัท ฉะนั้นท่านควรจะให้กรุ๊ป FINAL 100% ก่อนที่จะสำรองยานพาหนะ
6/162 ถนน วิภาวดีรังสิต แขวง สนามบิน เขต ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210